"Economic" (25 ก.พ.63)

"Economic" (25 ก.พ.63)

การส่งออกเพิ่มขึ้น 3.4% YoY ในเดือนมกราคม

Event

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่ามูลค่าการส่งออกเดือนมกราคม 2563 เพิ่มขึ้น 3.4% YoY เป็น 1.923 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกลดลง 7.9% YoY เหลือ 2.118 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1.55 ล้านดอลลาร์ฯ

มูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นลดลง 2.5% YoY ในขณะที่มูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐ EU จีน Asean และไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.9% YoY, 0.6% YoY, 5.2% YoY 1.8% YoY และ 13.1% YoY ตามลำดับ การส่งออกไปยังอินเดีย ฮ่องกง และเกาหลีใต้ลดลง 5.7% YoY, 14.3% YoY และ 4.0% YoY ตามลำดับ ในขณะที่การส่งออกไปไต้หวันเพิ่มขึ้น 13.1% YoY ส่งออกที่ไม่รวมทองคำ และน้ำมัน ลดลง 0.6% YoY

Impact

ราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1518-1611 ดอลลาร์ฯ และช่วยหนุนการส่งออกในเดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานต่ำเพราะในเดือนมกราคมปีที่แล้วราคาทองคำอยู่ที่ 1300 ดอลลาร์ฯ ราคาทองคำที่ขยับสูงขึ้นจะช่วยให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปจนถึงเดือนมิถุนายน เนื่องจากฐานที่ต่ำซึ่งราคา
ทองเฉลี่ยอยู่ที่ 1270-1350 ดอลลาร์ฯ

ส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น 5.88% YoY เนื่องจากมีการกลับมาดำเนินการตามปกติของโรงกลั่นจากที่หดตัวลงมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา การส่งออกข้าวลดลง 33.9% YoY อาหารทะเลแช่แข็งลดลง 12.90% ผลไม้สด ผัก และอาหารกระป๋ องลดลง 20.3% มันสำปะหลังลดลง 16.3% YoY ตามการลดลงของอุปสงค์จากจีน

การนำเข้าวัตถุดิบ และวัสดุขั้นกลางลดลง 10.2% YoY โดยเฉพาะการนำเข้าเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กลดลง 22.0% YoY ตามการลดลงอย่างมากจากการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง 8.7% YoY และการส่งออกเครื่องยนต์ลดลง 13.4% YoY การนำเข้าผักและสินค้าอื่นๆ ลดลง 18.7% YoY

ตัวเลขการส่งออกและการนำเข้าในเดือนมกราคมสะท้อนภาพผลกระทบของ COVID-19 เพียงบางส่วนเท่านั้น ผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกจากการระบาดของไวรัสอย่างเต็มที่จะเห็นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยอุปสงค์ผักและผลไม้จากจีนอาจจะลดลงอย่างมากระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม

การแพร่ระบาดของไวรัสไปทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการค้าโลก และอาจจะกระทบกับการส่งออกและนำเข้าของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะคาดว่าการระบาดจะถึงจุด peak เมื่อไหร่