Sideway Down
ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดในแดนลบ แต่เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาด
ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคยังคงแกว่งตัวไร้ทิศทาง เราคาดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน นอกจากนี้ ตลาดยังตอบสนองเชิงลบกับข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวที่บ่งชี้ถึงทิศทางที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,631.43 จุด (-1.37 จุด) Volume 5.5 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,655.04 ลบ. TFEX Net -6,224 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -1,134 ลบ.
ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ
+ ที่ประชุมสภาฯ ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 63 วาระแรก ด้วยคะแนน 251 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 486 เสียง
+รัฐบาลเตรียมออกมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 ต่อเน้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง เตรียมเสนอที่ประชุมครม. 22 ต.ค.คาดเปิดลงทะเบียน 23 ต.ค.
+/-รัฐสภาอังกฤษมีมติเลื่อนการตัดสินใจข้อตกลง Brexit
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 255.68 จุด -0.95% ถูกกดดันจากข่าวลบของบจ. อาทิ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโบอิ้ง รวมถึงการที่จีนเปิดเผย GDP Q3/2562 ขยายตัว 6%YoY ต่ำกว่าคาดที่ 6.1%และต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี
-Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจขยับลงเล็กน้อยในเดือนก.ย.
-ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 15 เซนต์ -0.3% ปิด 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล นลท.วิตกแนวโน้มความต้องการน้ำมันดิบลดลงหลังจีนเปิดเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าต่างๆ จะส่งผลกดดันราคาน้ำมัน
-"PwC ประเทศไทย" คาดกำไรบจ.ปี 63 ส่อแววรับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 - TFRIC23 หนุนผู้ประกอบการตั้งสำรองฯ-บันทึกค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่ม
-ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.ย.ลดลง 6.36%YoY และปรับลดเป้าการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก-ขายในปท.ปีนี้เหลือ 2 ล้านคันจากเดิม 2.15 ล้านคัน
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.2 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.28 บาท/US
*จับตาจีนเผย ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. และเยอรมันเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนต่างวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก จากการที่ IMF ได้ปรับลดคาดดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้จาก 3.2% ลงสู่ระดับ 3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) (TISCO SPF RSP TWPC DIF GPI)
- “ชิมช้อปใช้” (ROBINS BJC MAKRO SPA ERW TNP CPALL)
- หุ้นเด่นเดือนต.ค. (JUBILE ARROW TNP)
หุ้นรายงานพิเศษ
ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ถูกกดดันจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตไม่มากนัก (บางธนาคาร อาทิ BBL มีรายได้ค่านายหน้าเติบโตดีจากดีลเป็นนายหน้าการขายประกันผ่านธนาคาร) ภาพรวมอุตสาหกรรมถูกกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวกดดันการเติบโตของสินเชื่อ
ส่องหุ้น
DTAC แนวรับ 59.25 บาท แนวต้าน 60.00-60.25 , 61.00 บาท
ADVANC แนวรับ 230-229 บาท แนวต้าน 234 , 238 บาท
TNP แนวรับ 2.06-2.04 บาท แนวต้าน 2.22-2.24, 2.36-2.42 บาท
หุ้นมีข่าว
(+/-) TMB Analyst Meeting (Bloomberg Consensus 1.73) ผู้บริหารให้ความสำคัญต่อการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ยึดหลัก conservative ในการจัดชั้นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงในการกลายเป็น NPLซึ่งอาจจะมีผลให้มีคชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นและทำให้สำรองส่วนเกินลดน้อยลง ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 62 มีแนวโน้มชะลอตัวจากปี 61 โดยมีกำไรสุทธิในช่วง 9M62 เท่ากับ 5,607 ล้านบาท -43%YoY โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 7,581 ล้านบาท -35%YoY
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจากแผนควบรวมกิจการกับ TCAP แม้ว่าในช่วงของการเตรียมตัวจะมีค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ดีเชื่อว่าจะเกิด synergy หลังดีลควบรวมเสร็จสิ้น
(-) จับตา 8 หุ้น IVL ANAN PF MINT CPALL CPF PTTEP TTCL รับผลกระทบจากมาตรฐานการบัญชีใหม่ หรือ TAS 32 เริ่มใช้ปีหน้า บังคับหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุนถูกจัดประเภทใหม่จาก "ตราสารทุน" มาเป็น "หนี้สิน" ในงบการเงินแทน ส่งผลถูกปรับเครดิตลดลงต้นทุนการเงินพุ่ง ล่าสุด กลุ่มบจ. ทั้งหมดเสนอคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กบว.) เลื่อนใช้ไปอีก 3 ปี เพื่อให้เวลาปรับตัว ด้าน ก.ล.ต.เตือนนักลงทุนระวังการลงทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงสูง (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) CKP (Bloomberg Consensus 5.81 บาท) ดีเดย์ 29 ต.ค.นี้ พร้อม COD โรงไฟฟ้าไซยะบุรี 1,285 MW ลั่นเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำชนิดฝายทดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดสร้างรายได้ 13,000-14,000 ล้านบาท/ปี หนุนผลงานปีหน้าโตก้าวกระโดด ปักธงปี 68 กำลังผลิตพุ่ง 5,000 MW (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) COM7 (Bloomberg Consensus 28.19 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 4/62 พีกสุดของปีนี้ รับอานิสงส์การเปิดจำหน่าย iPhone 11 ยอดขายไหลลื่น หนุนรายได้ปีนี้เข้าเป้าโตทะลุ 3 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) ICHI (Bloomberg Consensus - บาท) เตรียมสรุปแตกไลน์ธุรกิจใหม่ 20 พฤศจิกายนนี้ คาดช่วงที่เหลือของปี 2562 อุตสาหกรรมเครื่องดื่มยังขยายตัวได้ดี เหยียบคันเร่งเจาะตลาดประเทศอินโดนีเซียและจีน เล็งยอดขายปี 2562 ยังเป็นไปตามเป้า 10-15% จากปีก่อน ด้านรัฐขึ้นภาษีความหวานไม่กระทบธุรกิจปรับแผนรับมือไว้แล้ว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) FTE (ราคาเหมาะสม - บาท) เผยไตรมาส 4/2562 เดินหน้าประมูลงานใหม่จาก กฟผ.-งานทั่วไป รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท มองทิศทางธุรกิจปัจจุบันการแข่งขันสูง ตุนงานในมือกว่า 450 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้ปีนี้ 30% หนุนรายได้ทั้งปี 2562 โตกว่า 10% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SNC (Bloomberg Consensus - บาท) ศึกษาทำโรงไฟฟ้าขยะหวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ รอนโยบายรัฐชัดเจน หลังธุรกิจหลักมีความผันผวน ฟากโบรกประเมิน Valuation น่าสนใจ มองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว Q2/62 มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษขายโรงงานไตรมาส 3 ราว 200-300 ล้านบาท หนุนทั้งปีจ่ายปันผลสูง (ที่มา ทันหุ้น)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-Sideway Down 10 ต.ค.
-Sideway Down 18 ก.ย.
-Sideway Down 3 ก.ย.
-Sideway Down 25 ก.ค.