วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (3 ก.ย. 62)
ราคาน้ำมันดิบลงต่อ หลังสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าจากจีนร้อยละ15
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลด หลังสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าร้อยละ15 ในสินค้าเทคโนโลยีจากจีน มูลค่ากว่า 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 62 ในขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบและสินค้าอื่นๆจากสหรัฐฯ มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกว่าจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมากขึ้น
-/+ ตลาดยังคงกังวลต่อเนื่อง หลังพายุเฮอร์ริเคนโดเรียน (Dorian) ระดับ 4-5 ขึ้นฝั่งบริเวณหมู่เกาะอะบาโค ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา ทำให้เกิดน้ำท่วมและสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนไม่น้อยกว่า 13,000 หลังรวมถึงสายการบินกว่า 900 เที่ยวถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม คาดว่าพายุจะเริ่มอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวไปตามแนวชายฝั่งรัฐฟลอริดา ในปลายสัปดาห์นี้
+/- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลด 12 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดต่อเนื่องเป็นเวลา 9 เดือน แตะระดับต่ำสุดที่ 742 แท่น อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ กลับแตะระดับสูงสุดที่ 12.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ ระลอกใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียอยู่
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้อุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียอ่อนตัวลง ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่นคาดว่าจะกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังเผชิญเหตุการณ์ไฟไหม้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า1%ทะลุ 56 ดอลลาร์
-วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (26 ก.ค.62)
-วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ส.ค.62)
-วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (22 ส.ค.62)