ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า1%ทะลุ 56 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า1%ทะลุ 56 ดอลลาร์

นักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (29ส.ค.)พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 56 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยข้อมูลวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า จีนและสหรัฐกำลังหารือกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้าในเดือนก.ย.

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงถึง 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักฌว่าลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 11.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน อีไอเอ ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 12.5 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ด้านมอร์แกน สแตนลีย์ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ สู่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สู่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 58 ดอลลาร์/บาร์เรล

การปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดังกล่าว มีขึ้นขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ และปีหน้า อันเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก