การเงิน
SPA - ถือ

คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ 255 ลบ. เติบโต 24%YoY ตามแผนการขยายสาขา
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
- รายงานกำไรสุทธิปี 61 ที่ 206 ลบ. เติบโต 17%YoY แต่ต่ำกว่าที่เราคาด 4%: รายงานกำไรสุทธิปี 61 ที่ 206 ลบ. เติบโต 17%YoY ต่ำกว่าที่เราคาด 4% โดยบริษัทเติบโตตามรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นราว 20%YoY สู่ 1,152 ลบ. จากการขยายสาขาในประเทศจำนวน 10 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์ Let’s Relax 7 สาขา แบรนด์ Stretch me by Let’s Relax 1 สาขา และแบรนด์ Face Care by Let’s Relax อีก 1 สาขา และมีการขยายสาขาแฟรนไชส์ไปต่างประเทศจำนวน 5 สาขาแบ่งเป็นในจีน 2 สาขา และกัมพูชา 3 สาขา ทำให้ ณ สิ้นปีมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 55 สาขา โดยบริษัทยังคงสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงเดิมที่ 18%
- คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่255 ลบ. เติบโต 24%YoY ตามแผนการขยายสาขา: คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ 255 ลบ. เติบโต 24%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนการขยายสาขาในปีนี้คาดจะอยู่ที่ราว 10 สาขาเช่นเดิม แต่จะแบ่งเปิดกระจายไปในแต่ละไตรมาส ต่างจากเดิมที่กระจุกตัวในช่วงปลายปี อีกทั้งยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากกิจการชบา เอลลิแกนซ์ ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 76% โดยจะควบรวมงบการเงินตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 คาดว่าจะมีสัดส่วนราว 5% ของรายได้รวม โดยเราคาดรายได้รวมของบริษัทจะเติบโตราว 23%YoY สู่ 1,404 ลบ. และยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่ 35% และ 18% ตามลำดับ
- เริ่มขายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ Let’s Relax ไปยังเมียนมา : บอร์ดมีมติเห็นชอบเข้าทำสัญญา Franchise Agreement ให้กับผู้ประกอบการ Living square ในประเทศเมียนมาเป็นระยะเวลา 5 ปี และสามารถขยายต่อไปได้อีก 5 ปี คาดจะเปิดดำเนินการได้ราว 3Q62 โดยค่าแฟรนไชส์แบ่งชำระเป็น 2 ส่วน คือ Lump-sum
(แบบจ่ายเงินก้อน) และ Monthly Franchise Fee (คิดตามสัดส่วนรายได้ต่อเดือน) อีกทั้งบริษัทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการเปิดสาขาแฟรนไชส์ Let's Relax ในเมืองชิงต่าว ประเทศจีน เป็นสาขาที่ 2 คาดจะเปิดดำเนินงานได้ราว 2Q62 เรามองว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตในต่างประเทศ - ปรับคำแนะนำจาก “ ซื้อ” เป็น “ถือ” ที่ราคาเหมาะสม 14.00 บาท: เรายังคงชื่นชอบ SPA ที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงส่วนแบ่งรายได้จากกิจการ ชบา เอลลิแกนซ์ โดยเราประเมินมูลค่าตามพื้นฐานด้วยใช้วิธี DCF ใช้สมมติฐาน WACC 7.3% , Terminal Growth 4.0% ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 14.00 บาทแต่เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับผลการดำเนินงานแล้ว ทำให้ราคาปัจจุบันมีอัพไซต์เพียง 8.5% เราจึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
ความเสี่ยง
1.เปิดสาขาได้ล่าช้ากว่าแผนงาน 2.จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากเหตุการณ์ไม่ปกติ
3. การขยายสาขาของแฟรนไชส์ที่ต่างประเทศไม่เป็นไปตามคา







