‘วีแชทเพย์’รุกจับมือธุรกิจท่องเที่ยวโกยตลาดจีน

วีแชท เพย์ รุกธุรกิจท่องเที่ยวไทยเจาะตลาดจีนเต็มสูบ ผนึกกลุ่มโรงแรมดุสิตใช้บริการอี-เพย์เมนต์ เป็นเครือแรกในอาเซียน ลุยจีบสมาคมโรงแรมไทยโกยสมาชิกร่วม ดันยอดผู้ประกอบการทุกธุรกิจในไทยร่วมใช้ระบบ 1 หมื่นแห่งในปีหน้า
นายเปรมชัย กุศลฤกษ์ดี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการชำระเงินระบบอิเลคทรอนิคส์ (e-payment) ที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินการรับชำระเงินผ่านวีแชท เพย์ กล่าวว่าได้ร่วมลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรกับบริษัท เคเชอร์ จำกัด ผู้ดำเนินการติดตั้งและดูแลระบบวีแชท เพย์ และกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต เพื่อเปิดให้บริการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของวีแชท เพย์ (WeChat Pay) ที่โรงแรมในเครือดุสิตที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนทั้งหมด รวมถึง 8 แห่งในไทย ได้แก่ ดุสิตธานีกรุงเทพฯ, ดุสิตธานีหัวหิน, ดุสิตธานีลากูน่าภูเก็ต, ดุสิตธานีพัทยา, ดุสิตดีทูเชียงใหม่, ดุสิตปริ๊นเซสศรีนครินทร์, ดุสิตปริ๊นเซสเชียงใหม่ และดุสิตปริ๊นเซสโคราช
ความร่วมมือดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทยในปีนี้ ที่วางเป้าหมายจับมือพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อรับกับกระแสการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสูงถึง 10 ล้านคน โดยจะเน้นการจับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการนักท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม, บริษัทนำเที่ยว, รถเช่า, สถานบันเทิง, ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งในช่วงไตรมาสแรก ได้เริ่มจัดกิจกรรมแนะนำบริการผ่านสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ไปแล้ว มีโรงแรมจำนวนมากสนใจติดต่อเข้าร่วม ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะเพิ่มยอดผู้ประกอบการเข้าร่วมเปิดให้บริการชำระเงินผ่านวีแชท เพย์ เป็น 3,000 ราย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นรายในปี 2561
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายผ่านวีแชท เพย์ ของชาวจีนที่มาไทย ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 100 ล้านบาทต่อเดือน หากมีผู้ประกอบการเข้าร่วมอีก เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายได้อีก 20% เป็น 120 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากเป็นระบบที่อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะปัจจุบันฐานผู้ใช้โปรแกรมสนทนาวีแชทกว่า 1 พันล้านคน มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนใช้ระบบวีแชท เพย์ สม่ำเสมอราว 400 ล้านคน ซึ่งระบบนี้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากขณะนี้ระบบรองรับการจ่ายเงิน 12 สกุลเงินแล้ว และไม่ต้องพกเงินสดติดตัวระหว่างเดินทาง
“คาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนมาไทยในปีนี้ 10 ล้านคน ปัจจุบันมีการใช้จ่ายกว่า 5 หมื่นบาทต่อหัว ซึ่งตลอดปีจะทำให้ไทยมีรายได้รวมกว่า 5 แสนล้านบาท โดยมั่นใจว่าระบบวีแชท เพย์ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายเพิ่ม ขึ้นและมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก เพราะมีฐานลูกค้าที่ใช้ประจำ และเป็นระบบที่มีความสะดวกและเอื้อให้เกิดการจับจ่าย”
นอกจากนั้น ยังมองการขยายไปยังจุดหมายท่องเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งมีอีกหลายแห่งที่ยังมีผู้ประกอบการเข้าร่วมน้อย เช่น เชียงใหม่ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวนิยมของตลาดจีนมาก ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า บริษัทยังเตรียมขยายความร่วมมือในการรับชำระเงินระบบอีเพย์เมนต์รายอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย ซึ่งจะมีการเปิดตัวในลำดับต่อไป
ด้านนายโดนัลด์ ถัง รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เคเชอร์ จำกัด ผู้ดำเนินการติดตั้งและดูแลระบบวีแชท เพย์ กล่าวว่าปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการที่ร่วมระบบวีแชท เพย์ แล้วประมาณ 1,000 แห่ง โดยมีธุรกิจท่องเที่ยวชั้นนำ อาทิ คิงพาวเวอร์, สยามเวลเนส, สยามนิรมิต, สยามเจ็มส์, ออลไทย แท็กซี่, เมสโซ่ คอฟฟี่ ฯลฯ และนอกจากไทยแล้ว ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการขยายระบบไปยังประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกันปีนี้จะเป็นครั้งแรก ที่วีแชท เพย์ จะขยายพันธมิตรผู้ประกอบการไปยังยุโรปและอเมริกา เพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนไปยังประเทศดังกล่าว โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 19 ประเทศที่รองรับการชำระเงินของวีแชท เพย์ แล้ว
ระบบนี้ยังมีจุดแข็งเรื่องความนิยมในประเทศจีน เนื่องจากร้านค้ากว่า 90% ในเมืองใหญ่ของจีน ต่างรับการชำระผ่านวีแชท เพย์แล้ว และในปีนี้จะพัฒนาเรื่องระบบให้บริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายลิม บุน ควี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต กล่าวว่า ปัจจุบันโรงแรมเครือดุสิตที่เปิดในจีน 5 แห่ง รองรับการชำระผ่านวีแชท เพย์ แล้ว และจะเตรียมนำมาใช้กับโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและกำลังจะเปิดใหม่ในจีนอีก 20 แห่ง รวมถึงใช้ในระยะยาวเมื่อมีการเปิดครบ 50 โรงแรมตามเป้าหมายด้วย ซึ่งการจับมือครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์การเลือกพันธมิตรที่เป็นผู้ให้บริการที่มีอิทธิพลเข้าถึงฐานตลาดจีนขนาดใหญ่ในมือ สอดคล้องกับสัดส่วนลูกค้าจีนที่ใช้บริการโรงแรมเครือดุสิตในจีนที่มีเกือบ 99%
นอกจากนั้น ภายในปีนี้ตั้งเป้านำระบบดังกล่าวมาใช้กับโรงแรมในเครือทุกแห่งในไทยและต่างประเทศ เนื่องจากพบว่าสัดส่วนลูกค้าตลาดจีนพัฒนาขึ้นเป็นกลุ่มสำคัญ โดยปัจจุบันลูกค้าอันดับ 1-3 ของโรงแรมดุสิตในไทยทั้งหมด ได้แก่ ไทย, จีน, ญี่ปุ่น สังเกตได้ว่าจีนติดท็อป 3 ในฐานะตลาดสำคัญมาก และมีโอกาสส่งเสริมตลาดได้มากขึ้น หากอำนวยความสะดวกให้ใช้การจ่ายเงินผ่านวีแชท เพย์ ได้กับบริการทุกส่วนของโรงแรม ทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินทางออนไลน์ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อหักค่าบริการต่างๆ ออกจากบัญชีของผู้ใช้โดยตรง
ทั้งนี้ ได้วางระบบการทำตลาดครอบคลุม ด้วยการสร้างบัญชีวีแชท ของดุสิต เพื่อการจองห้องพักผ่านระบบได้โดยตรง ซึ่งในช่วงการทำตลาดแนะนำระบบอีเพย์เมนต์นี้ มีการออกโปรโมชั่นลดราคาราว 40% ไปถึงสิ้นเดือน ก.ย.เพื่อสร้างการรับรู้บริการใหม่ด้วย
ด้านนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบอีเพย์เมนต์ของวีแชท เพย์ คาดว่าน่าจะเริ่มใช้งานให้บริการรับชำระกับลูกค้าตลาดจีนได้ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และสามารถครอบคลุมทั้ง 4 โรงแรมเครือเอเชียที่อยู่ในไทยได้ทันที
ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดรับระบบอีเพย์เมนต์ในธุรกิจโรงแรม จะเป็นช่องทางการให้บริการที่เป็นเทรนด์ใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มจะได้รับความนิยม เพราะโรงแรมได้อำนวยความสะดวกลูกค้า ขณะที่ตัวธุรกิจเองไม่มีอะไรเสียหาย เนื่องจากเป็นเสมือนช่องทางการชำระเงินอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับระบบบัตรเครดิต แต่สามารถรองรับความต้องการของตลาดจีนได้โดยเฉพาะ เพราะวีแชท เพย์ มีฐานลูกค้าจีนที่แข็งแกร่ง เฉพาะกลุ่มโรงแรมเอเชียมีสัดส่วนชาวจีนกว่า 20-25% ใกล้เคียงกับคนไทย
“การใช้ช่องทางชำระเงินนี้น่าจะขยายตัวได้อีก ซึ่งหากเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับผ่านการกลั่นกรองจากรัฐบาล และรับรองโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ไม่มีความน่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและน่าเชื่อถือแต่อย่างใด” นายสุรพงษ์ กล่าว







