'ทวี' ประกาศนโยบายแดนใต้ แก้กฎหมาย-ดันนิรโทษกรรมเพื่อสันติสุข

'ทวี' ประกาศนโยบายแดนใต้ แก้กฎหมาย-ดันนิรโทษกรรมเพื่อสันติสุข

"หัวหน้าพรรคประชาชาติ" ประกาศนโยบายเฉพาะชายแดนใต้ เน้นแก้กฎหมาย ให้อำนาจ ศอ.บต.-สมช. ดันแนวทางสร้างสันติภาพ ดันนิรโทษกรรมเพื่อสันติสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ โพสต์ถึงนโยบาย และยุทธศาสตร์ ของพรรคประชาชาติ เพื่อสู้เลือกตั้ง ว่า ยุทธศาสตร์ประชาชาติเพื่อสันติภาพและคุณภาพชีวิต 0-10-100 โดยนโยบายศูนย์ คือ ปราบโกงให้เป็นศูนย์ ผ่านการบังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ รวมถึงปราบปรามนักค้ายาเสพติดให้เป็นศูนย์ ซึ่ง ผู้จำหน่ายผู้ค้ายาเสพติดต้องปราบปราม ยึดทรัพย์และไม่ให้มีที่ยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 

พ.ต.อ.ทวี ระบุต่อ ว่านอกจากนั้นต้องลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้เป็นศูนย์ ลดอัตราการออกกลางคันให้เป็นศูนย์ โดยกำหนดแนวนโยบายและแนวปฏิบัติที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนทุกคนอยู่ในระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่องจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า นโยบายสิบ คือ จะเน้นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง ให้จีพีพีโต 10%  ผ่านการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อพลิกโฉมสามจังหวัดชายแดน และ 4อำเภอในจังหวัดสงขลา  และมีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ การยกเว้นอากรนำเข้าและส่งออกในรูปแบบการยกเว้นภาษีขายทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะเดียวกันจะผลักดันนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลให้สำเร็จเป็นรูปธรรม อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

"นอกจากนั้นคือส่งเสริมและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีศักยภาพและมีความโดดเด่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจของชุมชน ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม ยกระดับและสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารไทยหรือร้านต้มยำ ชายแดนใต้และประเทศเพื่อนบ้าน จัดตั้งกองทุนหมู่บ้านแห่งความสำเร็จให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่และสถานการณ์ความขัดแย้ง และเตรียมแก้ไขกฎหมาย สหกรณ์โดยให้มีสหกรณ์ปลอดดอกเบี้ย เป็นประเภทหนึ่งของสหกรณ์ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย" หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวต่อว่า นโยบายร้อย คือ นิติรัฐและนิติธรรม  สิทธิเสรีภาพ เสมอภาคและเป็นธรรม 100% การศึกษามีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วประเทศ ต้องมี การศึกษาภาคบังคับ ถึงมัธยมปลายหรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 100%  พร้อมให้มีชุมชนเป็นศูนย์กลางขจัดยาเสพติด 100%  

หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีกระบวนการสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติ ขับเคลื่อนการเมือง รวมทั้งนิรโทษกรรมเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สันติภาพและสันติสุข มีศูนย์เฝ้าระวังภัยเป็นกลไกคุ้มครองชีวิตประชาชน และการพัฒนาการให้สอดคล้องกับบริบท คือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นคณะกรรมการถาวรระดับชาติ พิจารณาทบทวนหรือยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่การใช้กฎหมายปกติและการบริหารงานโดยพลเรือน

"ต้องการแก้ไข พ.ร.บ. ศอ.บต. ให้มี กระบวนการสันติภาพและความคุ้มกันทางกฎหมาย แก่คณะพูดคุยและผู้เข้าร่วมกระบวนการสันติภาพทุกฝ่าย ไม่ให้ถูกฟ้องร้องในข้อหายุยงปลุกปั่นนำมาตรการถอนฟ้องหรือพักโทษมาใช้กับผู้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ พร้อมตั้งกองทุนเยียวยาที่เป็นธรรมและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย" หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว