'พระปกเกล้าโพล' เผยเสียงในหัวปชช. 42.6% ไม่พอใจผลงานรัฐบาล

"พระปกเกล้า" เผยผลสำรวจประชาชน พบ 42.6% ไม่พอใจผลงานรัฐบาล พร้อมสะท้อนอยากฟังผู้นำพรรค ดีเบต "ณัฐพงษ์" ครองพื้นที่เหนือ-กทม. "อภิสิทธิ์" ครองพื้นที่ภาคกลาง-ใต้
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสำรวจ ครั้งที่ 2 เรื่อง “เสียงในหัวประชาชนกับการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน” สำรวจ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายตามภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยมีบทสรุปสำคัญจากผลสำรวจ ดังนี้
เมื่อถามถึง ความพึงพอใจต่อการทำงานของรัฐบาล ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน 42.6% ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา 25% ระบุว่าค่อนข้างพอใจ ขณะที่ 24.6% ไม่พอใจเลย
ทั้งนี้ พบว่า 3 อันดับภาคที่ค่อนข้างพอใจ ถึงพอใจมากที่สุด พบว่า 10.8% คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมา 5.4% คือ ภาคกลาง และ 5.3% คือ ภาคใต้
ส่วน 3อันดับ ของช่วงอายุที่ค่อนข้างพอใจ ถึงพอใจมากที่สุด คือ 10.6% คือ อายุ 56 ปีขึ้นไป รองลงมา 7% คือ ช่วงอายุ 46-55ปี และ 4% ช่วงอายุ 36-45 ปี
ขณะที่อันดับของหัวหน้าพรรคที่คนแต่ละภาคอยากฟังดีเบตมากที่สุด ภาคเหนือ 25.8% อยากฟัง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน รองลงมา 13/1% คือ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ พรรคเศรษฐกิจ
ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20.8% ระบุว่าใครก็ได้ รองลงมา 17.6% อยากฟัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ส่วนกทม. สูงสุด 19.6% อยากฟัง นายณัฐพงษ์ รองลงมา 15.4% คือนายอนุทิน
ภาคกลาง สูงสุด 14.1% อยากฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมา 14% คือ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ส่วนภาคใต้ สูงสุด 27.2% อยากฟังนายอภิสิทธิ์ รองลงมา 24% อยากฟังนายอนุทิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า KPI Poll ยังวิเคราะห์ต่อผลสำรวจที่เกิดขึ้น มองว่ารัฐบาลมีความได้เปรียบในพื้นที่ที่นโยบายเข้าถึงชีวิตจริงแต่ในหัวเมืองและภาคใต้ โจทย์ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ หากคือการสร้างผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์บริบทเฉพาะพื้นที่มากขึ้น ขณะที่มิติช่วงอายุนั้นพบว่า รัฐบาลสื่อสารได้ดีกับคนรุ่นใหญ่ แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นกับคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เผชิญแรงกดดันค่าครองชีพและเศรษฐกิจโดยตรงมากที่สุด
ขณะที่การเมืองเชิงพื้นที่ พบว่าไม่ได้แบ่งขั้วแบบแข็ง แต่คือการสะท้อนว่าประชาชนแต่ละพื้นที่คาดหวังผู้นำไม่เหมือนกัน ขณะที่เวทีดีเบตทางการเมืองในวันนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจมองว่า ไม่ใช่เวทีตัดสินแพ้–ชนะ แต่เป็นเวทีสะท้อนโจทย์ชีวิตของแต่ละเจเนอเรชัน
บทสรุปและข้อเสนอแนะจากการแถลงผล KPI Poll ครั้งที่ 2 ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลโพลสะท้อนว่า
การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ยุคที่ประชาชนคิดต่างอย่างมีเหตุผล และเลือกฟังในแบบที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเอง ประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเมือง แต่ปฏิเสธการเมืองที่ไม่ตอบชีวิตจริง
ผู้นำหรือพรรคการเมืองที่ต้องการได้เปรียบต้อง สามารถเชื่อมโยงนโยบายกับชีวิตประจำวันได้ วางยุทธศาสตร์การสื่อสารที่มีความต่างกันตามรุ่นและพื้นที่ และใช้เวทีดีเบตเป็นพื้นที่สร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพียงการโจมตี







