เถ้าแก่น้อยผนึก ‘กูลิโกะ’ ปลุกตลาดสแน็ค-ขยายฐานลูกค้า

เถ้าแก่น้อยผนึก ‘กูลิโกะ’ ปลุกตลาดสแน็ค-ขยายฐานลูกค้า

ความร่วมมือของ 2 แบรนด์ใหญ่ในตลาดขนมขบเคี้ยวระหว่างแบรนด์ไทย “สาหร่ายเถ้าแก่น้อย” และบิสกิตระดับโลก “กูลิโกะ” สร้างปรากฏการณ์และสีสันไม่น้อย

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสาหร่ายปรุงรส “เถ้าแก่น้อย” กล่าวว่า ได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ดำเนินกลยุทธ์ความร่วมมือ (Collaboration) พัฒนาสินค้าใหม่ “เพรทซ์ เถ้าแก่น้อย รสโนริสาหร่าย”

นับเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าของทั้ง 2 แบรนด์ โดย “เพรทซ์” จะได้ลูกค้ากลุ่มเด็กและครอบครัวมากขึ้น ขณะที่ “เถ้าแก่น้อย” สามารถขยายฐานสู่กลุ่มเด็ก นักศึกษา และวัยเริ่มทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากตลาดตอบรับที่ดีก็มีโอกาสร่วมมือกันอีกในโปรเจคต่อไป รวมทั้งส่งออกทำตลาดต่างประเทศ

เบื้องต้น เพรทซ์ เถ้าแก่น้อย รสโนริสาหร่าย ผลิต 2 ล้านชิ้น จำหน่ายกล่องละ 15 บาท สร้างยอดขาย 32 ล้านบาท คาดจำหน่ายหมดภายใน 3-4 เดือน โดยวางตลาดเดือน พ.ย.นี้ เป็นต้นไป ผ่านร้านค้าสมัยใหม่ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ ร้านค้าดั้งเดิม หรือ โชห่วย ร้านจำหน่ายของฝาก “เถ้าแก่น้อย แลนด์” เพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภค ชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งนิยมซื้อสินค้าของกูลิโกะและเถ้าแก่น้อยเป็นของฝากกลับประเทศ

"การฟีทเจอริ่ง (featuring) ครั้งนี้ เพราะผูกพันกับแบรนด์กูลิโกะมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสได้พบกับผู้บริหารของกูลิโกะจึงถือเป็นความโชคดี และภาคภูมิใจ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกและได้เรียนรู้วิธีการทำงานและวัฒนธรรมองค์กร สามารถนำมาปรับใช้กับองค์กรของเถ้าแก่น้อยได้ด้วย"

ผลผลิตจากความร่วมมือชิ้นแรกใช้เวลานานเกือบ 1 ปี เพื่อให้ได้ “โนริสาหร่ายสูตรพิเศษ” จากสาหร่ายที่เถ้าแก่น้อยคิดและปรุงรสชาติขึ้นใหม่เพื่อให้มีความพิเศษ กลมกล่อม เข้มข้น ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับบิสกิตเพรทซ์ ทำให้เพรทซ์ เถ้าแก่น้อย รสโนริสาหร่าย มีรสชาติโดดเด่น ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้ง ที่โดดเด่น สะท้อนคาแรคเตอร์ของเถ้าแก่น้อยที่เป็นสแน็คสนุกสนาน มีสีสัน

โดยแพคเกจจิ้งของเพรทซ์ เถ้าแก่น้อย รสโนริสาหร่าย ถูกออกแบบพิเศษ น่าสนใจ สามารถนำไป “อัพไซเคิล” ทำประโยชน์ต่อได้อีก เช่น เก็บคลิปหนีบกระดาษ กระดาษโน๊ต เป็นแนวคิดที่เถ้าแก่น้อยและกูลิโกะร่วมกันคิดและนำเสนอ

กฤษดา นุรักษ์เข ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป กลุ่มงานการขาย บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบิสกิต “กูลิโกะ” กล่าวว่า พันธมิตรเถ้าแก่น้อยเป็นการร่วมมือระหว่างแบรนด์ (Co- Brand) ครั้งแรก และแตกต่างจากผู้เล่นในตลาดที่มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ หรือรสชาติใหม่ ภายใต้แบรนด์เดิม

"เศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าผู้นำในตลาดไม่ทำอะไรเลย ตลาดก็จะนิ่ง (Stagnant) ซึ่งกูลิโกะ ไม่ปิดกั้นความร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ และพร้อมเปิดรับความร่วมมือเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยมีสินค้าอื่นในพอร์ตที่สามารถต่อยอดได้ เช่น โคลลอน”

ปัจจุบันเถ้าแก่น้อยเป็นผู้นำตลาดสาหร่ายเมืองไทย เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ “ท็อป 3” ของเอเชีย ปีนี้คาดมีรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อนมีรายได้รวม 3,500 ล้านบาท ขณะที่ กูลิโกะ ผู้นำตลาดบิสกิต มีมาร์เก็ตแชร์ 18% จากตลาดบิสกิตมูลค่า 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่องทั้งกลุ่มบิสกิตและช็อกโกแลต