'สมคิด' ดึง 'ออมสิน-ธ.ก.ส.' แก้หนี้นอกระบบ

"สมคิด" สั่ง "ธนาคารออมสิน – ธ.ก.ส." ช่วยแก้หนี้นอกระบบ พร้อมดึงเจ้าหนี้เงินกู้เข้าสู่ระบบปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อติดตามงานและมอบนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในส่วนของธนาคารออมสินต้องการเน้นให้เป็นธนาคารเพื่อประชาชนรายย่อยดูแลชาวบ้านฐานรากในเมือง ส่งเสริมการค้าขายของรายย่อย จนถึงผู้ประกอบการใหม่ ที่สำคัญมอบนโยบายให้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลสินเชื่อรายย่อย เพิ่มภารกิจการปล่อยสินเชื่อไปสู่รายย่อยจากธนาคารประชาชน ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
ทั้งนี้ เพื่อให้รายย่อยที่ต้องการใช้เงินในช่วงเปิดเทอมหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนเดินเข้ามาปรึกษาขอกู้เงินจากธนาคารออมสิน เพื่อนำไปใช้จ่ายตามความจำเป็นของครอบครัว หวังลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ และต้องการดูแลแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทปล่อยกู้นาโนไฟแนนซ์ยังมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องทุนจดทะเบียนและการปล่อยสินเชื่อ จึงต้องการเปิดทางให้เจ้าหนี้นอกระบบที่ปล่อยสินเชื่อในปัจจุบันเปลี่ยนพฤติกรรมมาอยู่ในระบบภายใต้การดูแลของภาครัฐและปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำจะทำให้เจ้าหนี้รายย่อยปล่อยกู้ได้เหมือนเดิม แต่คิดดอกเบี้ยไม่สูงเกินไป ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาการให้เจ้าหนี้นอกระบบคิดดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม
สำหรับการปล่อยสินเชื่อโครงการ 1 เอสเอ็มอี 1 ตำบลภาคเกษตรนั้น เกษตรกรให้ความสนใจขอกู้จำนวนมากวงเงินกว่าหมื่นล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ปลูกพืชหลายชนิดใช้น้ำน้อยและต้องการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แบงก์รัฐ ตั้งศูนย์ให้ความรู้เกษตรกร นอกเหนือจากการปล่อยกู้ เพื่อยกระดับสินค้าเกษตร นอกจากนี้ ยังดึงภาคเอกชนมาช่วยรับซื้อสินค้าเกษตรให้มีช่องทางการจำหน่ายเพื่อลดความเสี่ยง และสนใจปลูกพืชแบบใหม่จากเป้าหมายสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคเกษตร 72,000 ล้านบาท โดยช่วงที่ผ่านมา ธ.ก.ส.แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วยการขยายเวลาชำระหนี้เกษตรกร 878,929 ราย วงเงิน 123,950 ล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 337,923 ล้านบาท จำนวนเงิน 42,105 ล้านบาท และปลดหนี้ไปแล้ว 6,207 ราย เพื่อลดปัญหาการพึ่งพาหนี้นอกระบบในอัตราที่สูง
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลหนี้นอกระบบ เพื่อให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง เนื่องจากธนาคารประชาชนปล่อยกู้สำหรับการค้าขาย ต่อไปหากประชาชนต้องการเงินกู้ สำหรับการใช้จ่ายทั่วไปมาติดต่อกับธนาคารออมสินได้ ส่วนการปล่อยกู้โครงการบ้านประชารัฐมีผู้ยื่นจองสิทธิ์ 31,000 ราย วงเงิน 31,000 ล้านบาท ขณะนี้ตรวจอบสิทธิ์ไปแล้วร้อยละ 55 มีประมาณ 7,000-8,000 ราย คุณสมบัติครบถ้วน ส่วนผู้ไม่ผ่าน เช่น ราคาบ้านเกิน 1.5 ล้านบาท การใช้ที่ดินคนอื่นสร้างบ้าน ไม่ใช่บ้านหลังแรก เพราะตรวจพบมีบ้านแล้วแต่ให้สามี ภรรยา แยกมายื่นขอกู้ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 เดือนตรวจสอบคุณสมบัติครบทั้งหมด







