BAFS - ซื้อ

BAFS - ซื้อ

ปี 59 กำไรเป็นสถิติใหม่ พร้อมลุ้นปันผลพิเศษ

มีมูลค่าเพิ่มจาก FPT 

หลังจากมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมธุรกิจพลังงานและบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 58 เพื่อขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือ โดยโครงการดังกล่าวจะมีการลงทุน 2 ระยะรวมเงินลงทุน 8 พันล้านบาท (รวมภาระดอกเบี้ย) เพื่อก่อสร้างแนวท่อและคลังน้ำมัน โดยแหล่งเงินทุน จะมาจากการเพิ่มทุนของ FPT และเงินกู้ โดย BAFS ในฐานะผู้ถือหุ้น 75% จะใส่เงินเพิ่มทุนจำนวน 2.6 พันล้านบาท โดยบริษัทจะทำการกู้ยืมจากสถานบันการเงินจำนวน 2.3 พันล้านบาท โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน เราประเมินว่ามูลค่าเหมาะสมของโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนืออีก 3.1 บาท โดยเรารวมมูลค่าโครงการดังกล่าวไว้ในมูลค่าเหมาะสมปัจจุบันของ BAFS แล้ว

แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

เราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q58 เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 252 ล้านบาท ลดลง 6%QoQเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล โดยบริษัทมีปริมาณน้ำมันที่ให้บริการเติมอยู่ที่ 1.4 พันล้านลิตร เพิ่มขึ้น 8%QoQขณะที่กำไรสุทธิ 9M58 อยู่ที่ 790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31%YoYซึ่งประมาณการ 4Q58 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิปี 2558 จะสูงถึง 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%YoYขณะที่ด้านกำไรสุทธิปี 2559 เราประเมินไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%YoYมาจากการรับรู้กำไรจากหุ้น FPT จำนวน 350 ล้านบาท (หลักหักภาษี) อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%YoYภายใต้สมมติฐานการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันที่ระดับ 5%YoYและปริมาณน้ำมันของ FPT เพิ่มขึ้น 2%YoY

ลุ้นปันผลพิเศษในปี 2559

เราประเมินเงินปันผลจากกำไรปกติในปี 2559 ไว้ที่ 1.25 บาท แต่เราเชื่อว่ามีโอกาสที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลพิเศษ ภายใต้สมมติฐานการจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรจากการขาย FPT ในสัดส่วน 25% - 75% จะได้เงินปันผลในอัตรา 0.27 – 0.41 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลจากกำไรปกติ คาดว่าในปี 2559 จะให้ผลตอบแทนได้สูงสุดถึง 5.6% ด้านเงินปันผลสำหรับผลประกอบการ 2H58 เราประเมินไว้ที่ 0.85 บาท ให้ผลตอบแทน 3% เมื่อรวมกับจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.25 บาท ทำให้บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมในปี 2558 ในอัตรา 1.1 บาทต่อหุ้น

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นยังมี Upside 25%

BAFS น่าสนใจจากการขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศ และธุรกิจสายการบินที่แข่งขันอย่างรุนแรง ขณะที่ AOT ยังมีศักยภาพในการขยายสนามบินรองรับ รวมไปถึงการลงทุนส่วนต่อขยายท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (FPT) จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาว เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) จากกระแสเงินสดของกิจการปี 2559 – 2569 โดยกำหนดอัตราส่วนลด (WACC) ที่ 9.3% Risk Free Rate 2% และ Terminal growth 2% มูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 36 บาทต่อหุ้น (รวมโครงการขยายท่อส่งน้ำมันภาคเหนือของ FPT)