“ราย็อง” นักสร้างสรรค์ความอร่อยแห่งเมืองระยอง

“เราไม่ได้แก่ขึ้น แค่กำลังจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคลาสสิก” (I’m not getting older, I’m just becoming a classic)

ข้อความคูลๆ ที่พิมพ์อยู่บนแก้วเครื่องดื่มของร้าน “ราย็อง” หนึ่งในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวเมืองระยอง ดึงดูดความสนใจเหล่าคนชอบเที่ยวที่แวะเยือนโซน 12 เมืองต้องห้าม...พลาด PLUS เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2559 ที่ผ่านมา

หลายคนรู้จัก “ระยอง” ในฐานะจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในประเทศ เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อย่าง เกาะเสม็ด หาดทรายแก้ว หาดแม่รำพึง ฯลฯ ทว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ในจังหวัดล่ำซำแห่งนี้ ยังมีตลาดเก่า ถ.ยมจินดา ย่านการค้าเก่าแก่กว่าร้อยปีของระยอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดหมายการท่องเที่ยว..ต้องห้ามพลาด

“ตอนเจอบ้านหลังนี้ครั้งแรกก็ชอบเลย เป็นตึกแห่งแรกในเมืองระยองอายุกว่าร้อยปี และบ้านเลขที่ 001 ด้วย เลยตัดสินใจขอเช่า และเปิดขายกาแฟรถเข็นเล็กๆ ตรงหัวมุมบ้าน”

“ยะห์-ธัชญา จวงสันทัด” ย้อนเล่าเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีก่อน (ก่อตั้งเมื่อปี 2545) ในตอนที่เธอมาเจอบ้านเก่าบน ถ.ยมจินดา และเกิดอาการ “ปิ๊ง!” แม้ในตอนนั้นแถวนี้ยังไม่ได้คึกคัก ไม่มีใครโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และแทบไม่มีร้านค้าหรือผู้คนสัญจรมากมายด้วยซ้ำ

ความมั่นใจเดียวที่มี คือความเชื่อลึกๆ ในใจว่าน่าจะเป็นไปได้ เลยเปิดร้านแล้วลองผิดลองถูก พัฒนาสูตรด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้ทางลัดไปซื้อแฟรนไชส์มาทำ จนร้านได้รับการตอบรับก็เริ่มเพิ่มเมนู เพิ่มเก้าอี้นั่ง ตอนหลังก็ตัดสินใจซื้อส่วนกลางของตัวตึกมาเปิดร้านอย่างจริงจัง และใช้ชื่อ “ราย็อง” ตามการออกเสียงเรียกจังหวัดระยองของคนสมัยก่อน

เริ่มแรกราย็องเป็นร้านสไตล์สภากาแฟ ที่คนมาทานของว่าง ของทานเล่น แต่เนื่องจากลูกค้านิยมมาเป็นกลุ่มเป็นแกงค์ เลยมีความต้องการที่หลากหลายขึ้น พวกเขาจึงได้ขยายมาทำทั้งของทานเล่นและของทานอิ่ม ตั้งแต่ น้ำ ไอศกรีม ขนมปัง โรตี สลัด ยำ และเมนูข้าว ฯลฯ โดยทุกเมนูล้วนสร้างสรรค์ขึ้นเอง ไม่ไปซื้อของสำเร็จมาบริการลูกค้า

“เราถือคติที่ว่า ต้องเป็นตัวของตัวเอง และไม่ไปลอกเลียนแบบใคร”

แม่ค้าหน้าหวานบอกจุดยืน และนั่นคือเหตุผลที่ความอร่อยเกือบร้อยเมนูภายในร้าน เป็นฝีมือของพวกเขาล้วนๆ กระทั่งขนมจีบก็ห่อเอง น้ำจิ้มทุกอย่างทำเอง แม้แต่เมนูใหม่ๆ ก็คิดเอง ทำเอง เพราะแค่อยากบอกลูกค้าได้เต็มปากว่า นี่คือราย็อง คือความอร่อยของพวกเขา ไม่ได้ก็อปปี้ใครมาทั้งนั้น

ส่วนอาหารก็ต้อง “สะอาด ปลอดภัย ไม่แพงเว่อร์” ในราคาตั้งแต่ 15 บาท ไปจน 200 นิดๆ ขณะที่เลือกใช้แต่ วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพ ไม่ใส่ผงชูรสหรือสารกันบูด ใครอยากมึนเมาไปที่อื่น เพราะร้านนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ขาย ส่วนเมนูที่คิดออกมาก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึก “ว้าว!” ได้เท่านั้น

“อย่างข้าวมันไก่ ถ้าเป็นข้าวมันไก่ธรรมดาก็ไม่ใช่ราย็อง ของเราไก่ต้องชิ้นหนา น้ำจิ้มต้องเป๊ะ เสิร์ฟรองใบตอง ห่อกลับก็ใส่ใบตองด้วย” เธอบอก

เช่นเดียวกับ โรตีพิซซ่า, เมี่ยงคำ 100 ปี และ สลัดเมล่อน ตัวอย่างเมนูขายดี ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา

จากร้านที่ปราศจากการโปรโมท ไม่เคยลงสื่อ ก็เกิดกระแสบอกต่อปากต่อปาก มีการเขียนรีวิวถึงในอินเตอร์เน็ต ดึงนักท่องเที่ยวต่างถิ่นให้แวะเยือนที่นี่ จนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนมาระยองต้องห้ามพลาดไปเรียบร้อยแล้ว

“วันแรกขายได้ 300 บาท ก็รู้สึกดีใจแล้ว วันนี้ถ้าวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ขายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท”

เธอบอกความสำเร็จที่วัดได้จากตัวเลขยอดขาย ซึ่งใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่หลักหมื่นบาท และใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็คืนทุน นี่ยังไม่รวมความสำเร็จจากลูกค้ามากหน้าหลายตาที่แวะมาเยือนที่นี่ ตั้งแต่วันธรรมดาที่มีทั้งนักเรียน และหนุ่มสาวโรงงาน เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็เป็นเวลาของนักท่องเที่ยว ซึ่งบางครั้งก็ถึงขั้นต้องเข้าคิวรอ เพราะกว่า 20 โต๊ะที่มีในร้าน ไม่เพียงพอรองรับลูกค้า

ขณะที่การอยู่ในเมืองของคนมีกำลังซื้ออย่างระยอง เป็นแต้มต่อในสนามการค้า เพราะแม้เศรษฐกิจจะแย่ แต่ก็ไม่ได้กระทบกับยอดขายของร้าน เมื่อคนระยองยังพร้อมควักเงินจ่าย แม้แต่การปรับราคาในสินค้าบางตัว ถ้ายังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล คนระยองก็ไม่วอรี่

จากหนึ่งสาขา ผ่านมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนราย็องก็มีสาขาที่สอง โดยพ่วงไปกับศูนย์ติดฟิล์มรถยนต์ TLH autoglass สาขาทับมา และเร็วๆ นี้ก็กำลังขยายไปเปิดที่พัทยา และอนาคตก็มองที่จะเปิดเป็นแฟรนไชส์ ทว่าต้องรอให้ระบบทุกอย่างพร้อมกว่านี้ เงื่อนไขชัดเจน และคุณภาพอาหารต้องนิ่งแล้ว เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิมในอดีตที่เคยขายแฟรนไชส์ไป แต่ต้องยุติสัญญาลงเพราะไม่สามารถควบคุมแฟรนไชซีให้รักษามาตรฐานไว้ได้

ร้านราย็องเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองด้วยความเก่า แต่รายละเอียดที่เป็นองค์ประกอบตัวธุรกิจ ล้วนเกิดจากความคิดที่ทันสมัย หนึ่งเบื้องหลังพลังความคิด ทั้งเมนูอาหาร และระบบการบริหารจัดการภายในร้าน คือ “เชน-ธนอรรถ การศินันท์” อดีตนิสิตวิศวะจุฬาฯ วัย 28 ปี ที่มาร่วมงานกับราย็องเมื่อ 3 ปีก่อน

“ผมเอาระบบเข้ามา เพื่อช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้น อย่างเมื่อก่อนราย็องเป็นแมมนวลทุกอย่าง การควบคุมดูแลเลยไม่ทั่วถึง แม้แต่การคิดราคาก็ยังเป็นลักษณะทำด้วยความอยากขาย ซึ่งบางทีทำไปก็ขาดทุน เพราะสินค้าบางอย่างต้นทุนกระโดดไปเยอะมาก ผมเลยต้องมาคำนวณใหม่ แล้วคิดราคาที่เราจะอยู่ได้”

คนหนุ่มบอกเราว่า ราย็อง คือ “แบรนด์” ที่ทำให้คนนึกถึงอาหาร ความสนุกที่ได้มาพบปะสังสรรค์กัน เป็นที่เดท ที่ปาร์ตี้ ที่ประชุมงาน ซึ่งในอนาคตจะไม่ได้มีแค่อาหาร แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย อาทิ เสื้อ เพื่อให้คนเกิดการติดตา และชัดเจนในความเป็นแบรนด์ราย็องมากขึ้น

ในวันนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่อยากเป็นลูกจ้าง หลายคนฝันอยากออกมาเปิดร้านกาแฟ ลงทุนซื้ออุปกรณ์ดีๆ หลายแสนบาท แต่ทว่าชงไปได้แค่ไม่กี่แก้วก็ต้องปิดตัวลง รุ่นพี่ที่ทำมาก่อนบอกว่า การทำธุรกิจนี้ต้องเกิดจากความคิด และใจรัก ไม่ใช่แค่มีเงิน ที่สำคัญต้องมีความอดทนให้มากด้วย

“อันดับแรก คุณต้องมองตัวเองก่อนว่ามีใจรักตรงนี้ไหม แล้วอย่าไปลอกเลียนแบบใคร ให้หาจุดยืนของตัวเองที่แหวกแนวจากคนอื่น ไม่อย่างนั้นถ้าไปตามคนอื่นลูกค้าก็แชร์ไปร้านโน้นร้านนี้เท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณมีเอกลักษณ์ ก็จะดึงลูกค้าเข้ามาได้ นอกจากนี้ความอดทนต้องเป็นที่หนึ่ง เพราะลูกค้ามาร้อยคนก็ร้อยอารมณ์ เหล่านี้เราต้องรับมือให้ได้”

เพื่อเติบโตและอยู่รอด ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และประสบความสำเร็จได้เหมือน...ราย็อง

.......................................

Key to success
สูตรเด็ดมัดใจลูกค้า ฉบับ “ราย็อง”

๐ ใช้ความเก่าแก่และประวัติศาสตร์ มาสร้างจุดขาย
๐ พัฒนาเมนูใหม่ ที่ลูกค้าต้องว้าว!
๐ ทำของดี มีคุณภาพ ราคาไม่แพงเวอร์
๐ การตลาดปากต่อปาก สร้างความสำเร็จให้ธุรกิจ
๐ ได้อานิสงห์จากเมืองท่องเที่ยว
๐ อยู่ในจังหวัดคนมีกำลังซื้อ เศรษฐกิจแย่ก็ไม่กระทบ