ปรับเพิ่มประมาณการ credit cost

ปรับเพิ่มประมาณการ credit cost

จากที่เราปรับขึ้นประมาณการ credit cost เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 58 ลง 14%

และคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 จะลดลง 13% yoy จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้นและ NIM ที่อ่อนตัวลง คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงอยู่ที่ 232.00 บาท

เหตุการณ์ใหม่

• พรีวิวผลประกอบการไตรมาส 2/58 เราได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์กับ KBANK เพื่อรับฟังพรีวิวผลประกอบการในไตรมาส 2/58 ประเด็นหลักที่เราได้รับกลับมาคือ NPL risk ที่สูงขึ้นซึ่งทำให้ธนาคารปรับเพิ่มประมาณการ credit cost ในปี 58 ขึ้นอยู่ที่ 150bp (จาก 100bp)

• เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 58 ลง 14%

• เราคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 จะลดลง 13% อยู่ที่ 10,100 ล้านบาท แม้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยลบเกิดจาก credit cost ที่สูงขึ้นและ NIM ที่หดตัวลง

ผลกระทบในอนาคต

• NPL risk สูงขึ้น จากประมาณการการเติบโตของ GDP ที่คาดจะอยู่ที่ 2.8% ในปีนี้ KBANK จึงยังคงมุมมองเดิมที่คาดว่าสภาวะเศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวช้าในช่วง 2H58 ซึ่งจะทำให้คุณภาพทรัพย์สินของสินเชื่อ SME มีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้น เราคาดว่า NPLs ของธนาคารจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.7-2.8% ในปีนี้ (จาก 2.4-2.5%)

• ปรับเพิ่มประมาณการ credit cost NPL risk ที่สูงขึ้นทำให้ธนาคารปรับเพิ่มประมาณการ credit cost ในปีนี้ขึ้นจากเดิมที่ 100bp มาอยู่ที่ 150bp สำหรับในไตรมาส 2/58 เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 140bp (จากที่ 100bp ในไตรมาส 1/58)

• คาดสินเชื่อโตขึ้น 6% ในปีนี้ ธนาคารคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตขึ้น 3% yoy ในช่วง 1H58 (ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตขึ้น 6% ในปีนี้) โดยมาจากกลุ่ม corporate และ SME เป็นหลัก

• NIM ถูกกดดันจาก NPLs ที่สูงขึ้น เราคาดว่า NIM จะลดลง 16bp qoq อยู่ที่ 3.6% ในไตรมาส 2/58 และจาก NPL risk ที่มากขึ้น เราจึงคาดว่า NIM อาจจะปรับตัวลดลงมากขึ้นในไตรมาส 3/58 สำหรับในปี 58 เราคาดว่า NIM จะอยู่ที่ 3.5% ใกล้เคียงกับที่ผู้บริหารคาดการณ์ไว้

ผลกระทบในอนาคต

• รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโตขึ้นเล็กน้อยตามคาดโดยมาจากค่าธรรมเนียม transactional/trade finance, บัตรเครดิจ, กองทุนรวมและ bancassurance เป็นหลัก

การปรับกำไรสุทธิ/ปัจจัยเสี่ยง

• เพื่อสะท้อนการปรับขึ้นประมาณการ credit cost ล่าสุดที่อยู่ที่ 150bp เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 58-60 ลง 14%, 7% และ 5% ตามลำดับ ประมาณการกำไรสุทธิในปี 58 ของเราต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 15% ซึ่งเราคาดว่าตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงอีกเนื่องจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มสมมติฐาน credit cost

คำแนะนำ

• คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงจาก 252.00 บาทมาอยู่ที่ 232.00 บาท คำนวณด้วย 2015F P/B ที่ 1.9 เท่า (เทียบกับ ROE ที่ 16.4%, COE ที่ 10.4% และการเติบโตในระยะยาวที่ 4%)