ประท้วงฮ่องกงกระทบศก.ระยะสั้น

ประท้วงฮ่องกงกระทบศก.ระยะสั้น กองเอฟไอเอฟไทยลงทุน1.3พันล้าน
นักวิเคราะห์คาดประท้วงฮ่องกง ส่งผลกระทบต่อตลาดและเศรษฐกิจในระยะสั้น ขณะภาคธุรกิจเริ่มได้รับผลกระทบ หลังลอรีอัล ระงับการเดินทางทางธุรกิจไปฮ่องกงถึง 6 ต.ค. ด้านแกนนำสมาพันธ์นักศึกษาขู่อาจเข้ายึดที่ทำการรัฐบาลหากผู้บริหารเกาะฮ่องกงไม่ลาออก กองทุนเอฟไอเอฟไทยลงทุนฮ่องกง 1.3 พันล้าน
นายเจเมียน รอนกา สปาดาเวคเชีย ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเมือง ออกซ์บาวแอดไวซอรี กล่าวว่าผลกระทบระยะสั้นจากการประท้วงในฮ่องกงน่าจะอยู่ในรูปของผลกระทบที่มีต่อตลาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยอาจมีการมองว่าเหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงและความไร้เสถียรภาพทางธุรกิจ
แต่หากมองไปในระยะยาวแล้ว นายสปาดาเวคเชีย คาดว่า การประท้วงไม่น่าจะส่งผลลบมากนัก เพราะจุดแข็งของฮ่องกงอยู่ที่สถาบันต่างๆ กระแสการไหลของข่าวสารอย่างเสรี และหลักนิติธรรม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุประท้วง
นายกาเรธ เลทเธอร์ แห่งบริษัทแคปิตอลอีโคโนมิก กล่าวว่าหากการประท้วงยืดเยื้อจะกระทบต่อการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมค้าปลีก ซึ่งมีสัดส่วน 10% ของผลิตภัณฑ์ในประเทศของฮ่องกง โดยทั้งสองภาคอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะนักท่องเที่ยวจะหนีหาย ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจดำดิ่ง และเศรษฐกิจอาจหดตัวในไตรมาสสุดท้าย
ด้านบรรดาผู้นำภาคธุรกิจเริ่มกล่าวว่าการประท้วงกำลังส่งผลกระทบ โดยล่าสุดบริษัทลอรีอัล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของโลก กล่าวว่าได้ระงับการเดินทางทางธุรกิจทั้งหมดไปยังฮ่องกงจนถึงวันที่ 6 ต.ค.เนื่องจากการประท้วง ทั้งนี้ ลอรีอัลมีบริษัทลูกในฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในเอเชียสำหรับสินค้าหรูหรา
สำหรับสถานการณ์การชุมนุมนั้น คาดว่าผู้คนจะหลั่งไหลไปร่วมประท้วงในช่วงวันหยุด 2 วันคือวันที่ 1-2 ต.ค. ซึ่งเป็นวันชาติของจีน และนายเหลียง ชันยิง หัวหน้าคณะบริหารเกาะฮ่องกง ในกล่าวในวาระวันชาติจีน ซึ่งมีการจัดงานที่ศูนย์ประชุม ว่าฮ่องกงกับจีนมีพัฒนาการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด และต้องร่วมมือกันเพื่อทำให้ความฝันของจีนเป็นจริง เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ว่าคนที่แตกต่างกันก็อาจมีความเห็นต่างกันเกี่ยวกับแผนการปฏิรูป แต่เป็นการดีกว่าที่จะมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ซึ่งก็หวังว่าทุกภาคส่วนในสังคมจะร่วมมือกับรัฐบาลอย่างสันติ มีเหตุผล และสามารถนำไปปฏิบัติได้ เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนารัฐธรรมนูญ
ขู่ยึดที่ทำการรัฐบาล
นอกจากนั้น ผู้ชุมนุมยังขู่จะยกระดับการประท้วงหากทางการไม่ทำตามข้อเรียกร้อง โดยนายอเลกซ์ โชว แห่งสมาพันธ์นักศึกษา กล่าวว่ามีทางเลือก 3 ทาง นั่นคือขยายการชุมนุมให้ทั่วเกาะ หรือริเริ่มให้คนงานผละงาน สุดท้ายคือการเข้าไปยังอาคารที่ทำการรัฐบาล
ด้านนายเลสเตอร์ ชัม รองเลขาธิการสมาพันธ์นักศึกษา กล่าวว่าเนื่องจากรัฐบาลสั่งให้ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา 87 ครั้งใส่ผู้ชุมนุม ดังนั้นจึงไม่มีช่องว่างสำหรับการเจรจา หากนายเหลียงไม่ลาออกภายในวันนี้ (2 ต.ค.) ผู้ชุมนุมจะยกระดับการเคลื่อนไหวและอาจไปยึดที่ทำการสำคัญๆ ของรัฐบาล
อังกฤษเตรียมเรียกทูตจีนเข้าพบ
รองนายกรัฐมนตรีนิค เคลกของอังกฤษ กล่าวว่าจะเรียกทูตจีนประจำกรุงลอนดอนเข้าพบ เพื่อแสดงความผิดหวังเกี่ยวกับการที่ไม่ยอมให้เสรีภาพในการเลือกตั้ง ด้านนายลอรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่าฝรั่งเศสจับตาสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิดและเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประท้วง นอกจากนั้น ฝรั่งเศสยังแนะนำนักเดินทางที่จะไปยังแถบที่มีการชุมนุม ให้ระมัดระวัง
ด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เตรียมพบปะกับนายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่กรุงวอชิงตัน และคาดว่าจะมีการหารือเรื่องวิกฤติการเมืองในฮ่องกง ขณะที่นายคริส สมิธ สมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าจะตั้งกลุ่มพิเศษเพื่อติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
กองทุนเอฟไอเอฟลงทุนฮ่องกง1.3พันล้าน
นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุน บจ.มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กองทุนในไทยยังไม่มีกองไหน ที่เน้นลงทุนหุ้นฮ่องกง แต่จะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในจีน, กลุ่ม Greater China หรือกลุ่ม Asia Pacific Ex Japan ซึ่งบางกองทุนจะให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นฮ่องกงด้วย
โดยกองทุนหุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ของไทยทั้งหมดมี 84 กองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นฮ่องกง คิดเป็นเงินลงทุน 2,583 ล้านบาท แต่มีกองทุน FIF ที่ลงทุนในหุ้นฮ่องกงเกินกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่เพียง 17 กองทุน และคิดเป็นเงินลงทุนในหุ้นฮ่องกง 1,329 ล้านบาท
กองทุนที่ลงทุนในหุ้นฮ่องกงสูงที่สุด มีสัดส่วนกว่า 60% ได้แก่ กองทุน Aberdeen China Gateway และมีเพียง 4 กองทุน ที่ลงทุนในหุ้นฮ่องกงเกินกว่า 20% (กองทุน Aberdeen China Gateway , กองทุน KTAM Hong Kong ETF Tracker, กองทุน Asset Plus HIS, กองทุน Greater China)
"ส่วนผลตอบแทนของกองทุนในกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นฮ่องกงเกินกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้ง 17 กองทุน ถือว่าได้รับผลกระทบพอสมควรจากเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีผลตอบแทนติดลบเฉลี่ย -2.7% หากมองไปเฉพาะกลุ่มที่มีการลงทุนในหุ้นฮ่องกงเกินกว่า 20% จะมีผลตอบแทนติดลบเฉลี่ยสูงเกือบ -5% ซึ่งก็สอดคล้องกับดัชนี HANG SENG ที่ติดลบ -5.8% นับตั้งแต่เหตุการณ์ประท้วงเมื่อช่วงต้นอาทิตย์ที่แล้ว"
แนะเลี่ยงลงทุนในฮ่องกง
นายกิตติคุณ กล่าวอีกว่า หากมองผลตอบแทนในภาพรวมนับแต่ต้นปีนั้น ก็ส่งผลให้ดัชนี HANG SENG ที่ติดลบกว่า -1.72% เปรียบเทียบกับก่อนเหตุการณ์ประท้วงดัชนีฮั่งเส็งให้ผลตอบแทน 4.32% สำหรับนักลงทุนทั่วไปไม่ต้องเป็นกังวลมาก เพราะสัดส่วนการลงทุนหุ้นฮ่องกงของ FIF ไทย ยังมีปริมาณไม่สูงนัก แต่ผู้ลงทุนที่ลงทุนใน FIF ที่ลงทุนหุ้นฮ่องกงเกินกว่า 10% ต้องติดตามข่าวสารใกล้ชิดมากขึ้น
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า นักลงทุนต้องแยกภาพของฮ่องกงกับจีนให้ออก ตัวอย่างกองทุนของบริษัท (KF-CHINA) เป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการในจีนแผ่นดินใหญ่แล้วมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง หลังเกิดการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงขึ้นหุ้นตลาดฮ่องกงปรับตัวลงแรงมากแต่หุ้นตลาด H-SHARE ลงน้อยกว่า ในระยะสั้นปัญหาที่เกิดขึ้น จึงส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน โดยเฉพาะเงินลงทุนของพอร์ตโฟลิโอ ส่วนเงินลงทุนตรงยังต้องดูเหตุการณ์ และคงแนะนำให้เลี่ยงการลงทุนจากตลาดหุ้นฮ่องกงออกไปก่อน เพราะยังยากประเมินสถานการณ์ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต




