ทอท.ยันไม่พบผู้โดยสารติดอีโบลาเข้าไทย

ทอท.ยันไม่พบผู้โดยสารติดอีโบลาเข้าไทย

"เมฆินทร์" ผู้บริหารท่าอากาศยานไทย ยืนยันยังไม่พบผู้โดยสารติดเชื้ออีโบลาเข้าไทย พร้อมเฝ้าระวังเต็มที่

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยถึงแผนการดูแลและควบคุมโรคอีโบลาในประเทศไทย ว่าในส่วนของ ทอท.ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของผู้โดยสารจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยได้มีการดำเนินการตามแผนที่ได้เคยวางเอาไว้ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารทุกคน โดยเฉพาะผู้โดยสารที่มาโดยตรงจาก 45 ประเทศในแอฟริกา โดยเฉพาะไนจีเรียและแอฟริกาใต้ ที่เป็นจุดกำเนิดของอีโบลา แม้ว่าขณะนี้ยืนยันยังไม่พบผู้ป่วยอีโบลาเข้ามาผ่านทางสุวรรณภูมิ หรือว่าพบบุคคลที่มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 38 องศา และต้องมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้เมื่อเป็นการควบคุมดูแลโรคร้ายแรงที่จะเข้ามาในประเทศไทยอย่างจริงจัง ทอท.มีแผนในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหรือเวิร์กช็อปให้กับพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรองรับการดูแลเหตุการณ์ฉุกเฉินใน 3 กรณีคือคือปัญหาที่เกิดจากภัยพิบัติ เกิดจากโรคติดต่อร้ายแรง และการก่อการร้ายทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจ และตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ผู้โดยสารจากแอฟริกา 45 ประเทศ จะต้องมีใบรับรองไข้เหลืองมาแล้วก็ตาม

วันเดียวกันนี้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมการสาธิตมาตรการป้องกันทำความสะอาดบนเครื่องบิน รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ที่การบินไทยนำมาใช้ในการป้องกันโรคอีโบลา ที่ฝ่ายช่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อยืนยันว่ามาตรการเหล่านี้มีประสิทธิภาพเพียงพอและขอให้ผู้โดยสารเชื่อมั่นในการใช้บริการ ซึ่งก่อนหน้านี้การบินไทยได้ออก 7 มาตรการ เพื่อนำมาใช้ป้องกันการระบาดของอีโบลา ประกอบด้วย

1. มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการลูกค้าภาคพื้น อาทิ การสังเกตอาการผู้โดยสารก่อนการเช็กอิน หากจำเป็นผู้โดยสารต้องมีใบรับรองแพทย์ 2. มาตรการการให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ การเฝ้าระวัง สังเกตอาการของผู้โดยสารในระหว่างการเดินทาง 3. มาตรการในการจัดเตรียมอากาศยานและฆ่าเชื้อโรค อาทิ การพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายในอากาศยานในระหว่างจอดที่สนามบิน 4. มาตรการในการทำความสะอาดภายในอากาศยาน อาทิ การทำ Deep Cleaning และเพิ่มการทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสภายในห้องโดยสาร 5.มาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงาน เช่น การมีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลประจำเครื่องบิน และการให้ความรู้ในการป้องกันสุขภาพแก่พนักงาน 6. มาตรการด้านการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ อาทิ เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์และหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง และ 7. มาตรการด้านโภชนาการ อาทิ การคัดเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารที่สะอาดได้มาตรฐานและไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นพาหะของโรค