อภ.ยันจัดส่งยาไปจ.ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังได้ปกติ ย้ำพร้อมเพิ่มกำลังการผลิต รับมือเหตุฉุกเฉิน

อภ.ยันจัดส่งยาไปจ.ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังได้ปกติ ย้ำพร้อมเพิ่มกำลังการผลิต รับมือเหตุฉุกเฉิน

อภ.พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตยา รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ยืนยันการขนส่งยาไปพื้นที่ชายแดนยังเป็นไปตามปกติ ไม่กระทบการรักษาผู้ป่วย ส่วนน้ำท่วมหาดใหญ่เร่งฟื้นฟูคลังยาที่เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2568 ที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านขุนกลาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ดร.ภก.จตุพล เจริญกิจไพบูลย์ รองผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดส่งยาให้กับ พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า คลังยาจองอภ. ที่จะส่งให้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังสามารถจัดส่งยาให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ได้

นอกจากนี้ ยังสามารถส่งยาจากส่วนกลาง ในพื้นที่ รังสิต จ.ปทุมธานีไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดน โดยจะจัดส่งให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) เป็นผู้จัดเก็บ ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ในการขนส่ง กระจายยาไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่โซนสีแดง

"ที่ผ่านมายังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชายังไม่มีปัญหาการขาดแคลนยา เนื่องจากส่วนใหญ่แต่ละโรงพยาบาลจะมีการสํารองยาไว้แล้วประมาณ 1-2 เดือน"ดร.ภก.จตุพลกล่าว

ขณะเดียวกัน องค์การเภสัชกรรม ยังได้จัดส่งยาไปยัง รพ.สนาม ศูนย์พักพิงชั่วคราวต่าง ๆ ที่มีแพทย์เจ้าหน้าที่พยาบาล บุคลากรสาธารณ เพื่อใช้ในการดูแลประชาชนและผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงได้บริจาคยาและเวชภัณฑ์กลุ่มโรคสําคัญในการดูแลผู้ป่วยในศูนย์พักพิง

ถามถึงศักยภาพในการเพิ่มกำลังการผลิตรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆของประเทศ ดร.ภก.จตุพล กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้มีการขยายการผลิตยา โดยอยู่ระหว่างเตรียมเปิดโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ ที่ รังสิต คลอง10 ระยะที่2  ขณะนี้ขั้นตอนการตรวจรับเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทําให้กําลังการผลิตสูงขึ้นมากกว่าเดิม รองรับ สถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ในอนาคต 

ดร.ภก.จตุพล กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าความเสียหายคลังยาองค์การเภสัชกรรม ที่ อ.หาดใหญ่ จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา โดยคลังยาได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดมูลค่าความเสียหาย กว่า 10 ล้านบาท จากที่น้ำได้ท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร  ขณะนี้อยู่ระหว่างการ ปรับปรุงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นคลังยาใหญ่ที่จะกระจายยาไปยังพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง  อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีปัญหาในเรื่องของการขนส่งและจัดส่งยาให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ เนื่องจากได้มีการปรับแผนการขนส่งจากพื้นที่ส่วนกลางให้กับในพื้นที่แทน

"จากสถานการณ์อุทกภัย ที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรมจึงได้มีการประชุมวางแผน หาพื้นที่อื่นหรือพื้นที่สูง ที่คาดการณ์ว่า น้ำจะท่วมไม่ถึงในพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อป้องกันเหตุภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"ดร.ภก.จตุพลกล่าว