TTCL : เข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ

TTCL : เข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ

การเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าน่าจะเกิดขึ้นใน 3Q57 หลังได้ข้อสรุปเรื่องพื้นที่การก่อสร้าง

ขณะที่ผลประกอบการปีหน้าจะเติบโตก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้า Ahlone เข้ามาเต็มที่ ฝ่ายวิจัยเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ

งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่า จะได้ข้อสรุปใน 3Q57 : หลัง โตโยไทย เอ็นจิเนียริ่ง (TTCL) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงพลังงานของพม่าในเดือนมี.ค.2556 เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้า Ultra Supercritical Coal-fired ขนาด 1,000 MW ที่เขตอุตสาหกรรมพิเศษทิลาวา มีกรอบเวลาศึกษา 1 ปี ล่าสุด TTCL ได้ทำข้อเสนอต่อรัฐบาลพม่า โดยจะย้ายตำแหน่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากทิลาวา ไปที่รัฐ Mon State ซึ่งมีความเหมาะสมด้านพื้นที่มากกว่า

โดยการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าจะทำให้รัฐบาลพม่าสามารถกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าได้ถูกลงถึง 15-20% อยู่ที่ประมาณหน่วยละ 10Cent สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินนี้ จะเพิ่มขนาดจาก 1,000 MW เป็น 1,280 MW และมีมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นจาก 2,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 2,600 ล้านดอลลาร์ โดย TTCL คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOA) กับรัฐบาลพม่าได้ใน 3Q57 และจะเริ่มงานก่อสร้างต้นปี 2558

ผลตอบแทนจากโรงไฟฟ้า 3 แห่ง จะรับรู้เต็มที่ในปี 2558 : การแตกไลน์ธุรกิจมาลงทุนในโรงไฟฟ้า เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทนอกเหนือจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จะทำให้โครงสร้างกำไรของ TTCL เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2558 เป็นต้นไป หลังโรงไฟฟ้า Ahlone ในพม่าที่ TTCL ถือหุ้นอยู่ 70% มีการพัฒนาระบบ Gas Turbine จาก Simple Cycle เป็น Combined Cycle ใน 4Q57 ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิตเพิ่มจาก 80 MW เป็น 120 MW และจะสร้างกำไรให้กับ TTCL ได้ 8-10 ล้านดอลลาร์/ปี

ขณะที่การลงทุนก่อนหน้านี้ในโรงไฟฟ้าสยามโซลาร์ (TTCL ถือหุ้น 35%) มีส่วนแบ่งกำไรให้กับ TTCL 5 ล้านบาท/ไตรมาส ส่วนโรงไฟฟ้านวนคร (TTCL ถือหุ้นบุริมสิทธิ 40%) จะเริ่มจ่ายปันผลในปี 2558 เป็นต้นไป ปีละ 63 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนกำไรที่มาจากโรงไฟฟ้า 3 แห่งในปี 2558 คิดเป็น 35% ของกำไรทั้งหมด

เวลาเหมาะสมสำหรับสะสมหุ้น เพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ

จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วง 2H57 จากการคาดการณ์ว่า TTCL จะเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่า ซึ่งจะทำให้ Backlog ของ TTCL เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งผลประกอบการปี 2558 ที่จะเติบโตก้าวกระโดด

ฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ โดยประเมิน Fair Value ปี 2557 ด้วยการคิดลดมูลค่าเหมาะสมปี 2558 ที่ใช้วิธี Sum of the Part ด้วย Discount Rate 12% จะให้ราคาเหมาะสมในปี 2557 ที่ 42.68 บาท และเพิ่มเป็น 47.80 บาท ในปี 2558

โรงไฟฟ้าถ่านหิน จุดเปลี่ยนสำคัญของ TTCL : หลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงพลังงานของพม่าตั้งแต่เดือน มี.ค.2556 เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าUltra Supercritical Coal-fired ขนาด 1,000 MW ที่เขตอุตสาหกรรมพิเศษทิลาวา โดยมีกรอบเวลาประมาณ 1 ปี TTCL ต้องประสบปัญหาเรื่องการจัดหาพื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เนื่องจากชายฝั่งบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาวามีระดับน้ำค่อนข้างตื้น ทำให้เรือขนส่งถ่านหินขนาดใหญ่ไม่สามารถเทียบท่า Jetty ของโรงไฟฟ้าได้ การขนถ่ายถ่านหินจึงต้องทำผ่านเรือขนาดเล็กซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ส่งผลให้ราคารับซื้อไฟฟ้า (Tariff ) ที่ TTCL เสนอต่อรัฐบาลพม่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม การสำรวจพื้นที่ใหม่ทำให้ TTCL มีข้อเสนอต่อรัฐบาลพม่า ที่จะย้ายตำแหน่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากทิลาวาไปที่รัฐ Mon State ซึ่งอยู่ทางเหนือของทวายประมาณ 320 กม. เนื่องจากมีความได้เปรียบเรื่องพื้นที่ติดทะเลน้ำลึก โดยการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าจะทำให้ Tariff ถูกลงถึง 15-20% ซึ่งรัฐบาลพม่าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดย TTCL คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOA) กับรัฐบาลพม่าได้ใน 3Q57 และจะเริ่มงานก่อสร้างต้นปี 2558 โดยมีกำหนดจ่ายไฟเฟสแรก 640 MW ช่วง 1Q61 และเฟสที่ 2 อีก 640 MW ในช่วง 2Q61

ไม่ห่วงเพิ่มทุน แม้โรงไฟฟ้าต้องลงทุนสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท : แม้โรงไฟฟ้า Ultra Supercritical Coal-fired ขนาด 1,280 MW จะต้องใช้เงินลงทุนสูงถึง 2,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8 หมื่นล้านบาท แต่ TTCL ได้วางแผนจัดหาเงินสำหรับเดินหน้าโครงการนี้แล้ว โดยแหล่งเงินจะมาจากเงินกู้ 2,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านสถาบันการเงินของญี่ปุ่นเป็นหลัก

ขณะที่ส่วนของทุน 600 ล้านดอลลาร์ จะแบ่งเป็นส่วนที่มาจาก TOYO THAI Power Holdings (TTPHD) 60% และมาจาก Japanese Partner อีก 40% ซึ่ง TTCL ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 70.18% ใน TTPHD มีแผนที่จะนำบริษัท TTPHD เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ในปี 2558 เพื่อระดมทุนราว 290 ล้านดอลลาร์ รวมถึงการขายหุ้นใน TTPHD บางส่วนให้กับ Japanese Partner ซึ่งน่าจะได้เงินเข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 40 ล้านดอลลาร์ ทำให้ TTCL แทบจะไม่มีภาระที่จะต้องใส่เงินเพิ่มเข้าไปใน TTPHD อีก จึงเชื่อว่า TTCL ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน แม้ว่าจะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่กว่า 8 หมื่นล้านบาทก็ตาม

โดย TTCL ยังคงยืนยันที่จะคงสัดส่วนการถือหุ้นใน TTPHD มากกว่า 50% หลังการขายหุ้น TTPHD บางส่วนให้กับ Japanese Partner รวมถึงการออกหุ้น IPO ของ TTPHD

ลุ้นงานประมูลใหญ่ในเวียดนามไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์ : ปัจจุบัน TTCL มีงานที่อยู่ในระหว่างการเข้าประมูล 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งนับรวมงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่า 8 หมื่นล้านบาทไว้ด้วย หากหักโครงการดังกล่าวออก ก็จะเหลืองานประมูลอื่นๆ อีกประมาณ 6 หมื่นล้านบาท โดยงานที่ TTCL มีความคาดหวังสูง คืองานก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมีขั้นปลายของ Petro-Vietnam มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลงทุนของ SCC โดย SCC ถือเป็นลูกค้าสำคัญของ TTCL ที่เคยร่วมงานกันมาหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน TMMA1 และ TMMA2 รวมไปถึงโครงการ Debottleneck ของโรงงานระยองโอเลฟินส์

ฐานกำไรจะขยับสู่ระดับ 1 พันล้านบาท ในปี 2558 เป็นต้นไป : ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าฐานกำไรของ TTCL จะขยับขึ้นเหนือ 1 พันล้านบาท ได้ในปี 2558 เป็นต้นไป หลังธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ TTCL เข้าไปลงทุนเริ่มสร้างผลตอบแทนกลับคืนมา โดยปัจจุบัน TTCL ยังอยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องต่อทางการญี่ปุ่น เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้า Solar Farm อีก 2 แห่ง กำลังการผลิต 10 MW และ 25 MW ตามลำดับ ซึ่งคาดว่าโรงไฟฟ้า 10MW น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้