กสิกรไทยโชว์ฟอร์มปันหุ้นหรู ชูหุ้นไทยน่าไปต่อปี58

บลจ.กสิกรไทยโชว์ฟอร์มปันผลกองทุนK-GB/RKF-HIเอาใจนักลงทุนไม่หวั่นภาวะตลาดหุ้นผันผวนมองหุ้นไทยปี58มีแววไปต่อได้
นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมกันรวม 2 กองทุน คือกองทุนเปิดเค โกลบอล บอนด์ (K-GB) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-30 มิ.ย. 2557 ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 30 มิ.ย. 2557 ในอัตรา 0.53 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 2 กองทุน จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00น. ของวันที่ 30 มิ.ย.2557 รวมมูลค่าการจ่ายปันผลทั้ง 2 กองทุน กว่า 90 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 ก.ค.นี้
นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าวว่า กองทุนเปิดเค โกลบอล บอนด์ (K-GB) ของ บลจ.กสิกรไทย ได้จัดตั้งขึ้นในดือนเมษายน 2557 ซึ่งบริหารจัดการกองทุนเพียงระยะเวลาอันสั้นไม่ถึง 1 ไตรมาส ก็สามารถจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือคิดเป็นเงินปันผล 0.98% ในรอบบัญชีที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. - 30 มิ.ย. 2557) ซึ่งกองทุน K-GB เป็นกองทุนทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังตราสารหนี้ภาครัฐทั่วโลก มีการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก ( Active Management) ผ่านกองทุนหลัก Templeton Global Bond Fund – Class I กองทุนชั้นนำระดับโลก และเป็นหนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริหารจัดการโดย Franklin Templeton Investments หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำของโลก
นอกจากนี้กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar และได้รับ Rating GOLD จาก S&P Capital IQ ในปี 2557 และด้วยหลักการลงทุนที่ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเศรษฐกิจระดับประเทศ โดยมุ่งสร้างผลตอบแทนจากการคัดเลือกประเทศที่มีความน่าเชื่อถือดีและมีศักยภาพในการเติบโตสูง จึงส่งผลให้กองทุนมีผลตอบแทนที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว โดยกองทุน K-GB เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่ยังคงสามารถรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก
ขณะที่กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่ บลจ.กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายปันผลในครั้งนี้ ที่ผ่านมามีการจ่ายปันผลไปแล้วรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง คิดเป็นเงินปันผลรวม 8.43 บาทต่อหน่วย โดยเป็นกองทุนเปิดที่จัดตั้งมายาวนาน นับตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งเป็นกองทุนในหุ้นภายในประเทศเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีนโยบายในการจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวดบัญชี ทั้งนี้ กองทุน RKF-HI เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับค่อนข้างสูง ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-GB และRKF-HI ของบลจ. กสิกรไทย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888
"ในช่วงนี้หุ้นไทยมีการปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างมาก สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มจะมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากผลการดำเนินงานของคสช. มีความชัดเจนตามนโยบายและเป้าหมายที่วางไว้ หุ้นไทยในระยะยาวจึงน่าจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ลงทุนได้ แต่สำหรับในระยะสั้นๆ อาจต้องระวังการ เทขายทำกำไรของนักลงทุนในบางช่วง" นายพงศ์พิเชษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ลดความเสี่ยงก่อนการลงทุน ทั้งกองทุน K-GB และ RKF-HI ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้กองทุน K-GB ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้







