เอกชนขานรับเลิกเคอร์ฟิว3พื้นที่

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า น่าจะเป็นผลดีทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มที่กำลังตัดสินใจเดินทางมาไทยในช่วงนี้ เนื่องจากทั้ง 3 จุดหมายดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว และคาดว่าจะยิ่งเป็นผลดีต่อเกาะสมุยที่กำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพอดี ดังนั้น หากในระยะใกล้ คสช.มีแผนจะพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมก็จะทำให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้นไปอีก เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อนักท่องเที่ยวมาไทย ส่วนใหญ่ก็นิยมเที่ยวชมบรรยากาศช่วงกลางคืนเพิ่มเติมด้วย และเป็นส่วนช่วยทำให้เกิดรายได้สะพัดมากขึ้น

นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคใต้ กล่าวว่า การยกเลิกเคอร์ฟิวจะช่วยลดความตึงเครียดของบรรยากาศท่องเที่ยว และเป็นปัจจัยเสริมให้ชาวต่างชาติต้องการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซันได้ดีขึ้นระดับหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องการให้หน่วยงานด้านท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นกรมการท่องเที่ยว หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใช้โอกาสนี้จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การยกเลิกประกาศห้ามเดินทางตามเวลาที่กำหนดไว้ที่ 24.00-04.00 น. น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทั้งนี้จากผลจากการประกาศเคอร์ฟิวทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาภูเก็ตราว 10%

แต่ ยังต้องติดตามเรื่องการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวที่ยังคงมีอยู่ถึง 63 ประเทศว่าจะยกเลิกหรือไม่ อย่างไร เพราะการประกาศดังกล่าวมีผลโดยตรงต่อประกันภัยนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2557 ที่ผ่านมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 52/2557 ซึ่งมีผลยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในบางพื้นที่ (เคอร์ฟิว) ในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศท่องเที่ยว ส่วนพื้นที่อื่นยังคงเคอร์ฟิว เวลาเดิม คือ 24.00-04.00 น.