'เลคิเซ่'บุกส่งออกตั้งเป้า7ประเทศอาเซียน

นายสมนึก โอวุฒิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลี้ กิจเจริญแสง จำกัด และบริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เลคิเซ่” เปิดเผยว่า ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศจะอาศัยโมเดลธุรกิจ ที่มีอยู่มาปรับประยุกต์ใช้กับโมเดลของอินเตอร์แบรนด์ต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ โดยจัดตั้งฝ่ายอินเตอร์เนชั่นนัล ขึ้นมาเพื่อทำศึกษาตลาดประเทศเป้าหมาย แต่งตั้งตัวแทนอย่างเป็นทางการ และสร้างทีมสนับสนุนธุรกิจเฉพาะในแต่ละประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

ล่าสุดได้ทีมงานที่มีความชำนาญด้านการทำตลาดต่างประเทศ นายมนต์ภัทร์ เรืองสุวิทย์กุล มารับตำแหน่งผู้อำนวยการขายต่างประเทศของบริษัท ลี้ กิจเจริญแสง จำกัด ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าตลาดต่างประเทศปีนี้จะมีการเติบโตสูงขึ้น

ส่วนการทำตลาดในปีนี้จะมุ่งเน้นตลาดหลอดไฟแอลอีดี ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีอยู่ เนื่องจากแอลอีดีกำลังได้รับความนิยม และเลคิเซ่กรุ๊ปสามารถพัฒนาสินค้าได้ตามความต้องการของลูกค้าทั้งคอนซูเมอร์และลูกค้าโครงการ ประกอบกับราคาในปัจจุบัน ได้ปรับลดลงมากว่า 50% จากเดิมที่ชุดละ 2,000 บาท เหลือประมาณ 1,000 บาท และเชื่อว่าหลอดไฟแอลอีดีจะปรับลดราคาเหลือหลอด 299 บาท จากปัจจุบันที่ขายอยู่ประมาณ 400-600 บาท

เลคิเซ่ จะมุ่งเน้นทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้จัดตั้งตัวแทนจำหน่ายหลักใน 7 ประเทศ คือ พม่า ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา เป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าไทย ให้เป็นที่รู้จักในตลาดสากล หลังจากทดลองตลาดมากกว่า 1 ปี โดยจะมุ่งเน้นทำตลาดทั้งค้าปลีกและงานโครงการในสัดส่วนเท่าๆ กัน

ส่วนการทำตลาดในประเทศ ที่ผ่านมาได้ เลคิเซ่ แตกไลน์ไปยังกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือกลุ่มเอชเอ ซึ่งจะเห็นได้จากาการเปิดตัวเครื่องทำน้ำอุ่นใช่วงกลางปีที่ผ่านมา และในปีนี้เตรียมทยอยออกสินค้าใหม่ๆ อีก 3 ชนิด จำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรด อาทิ ร้านไทวัสดุ โฮมเวิร์ค และโฮมโปร

นอกจากนี้ ยังได้ขยายไลน์ธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ภายใต้รูปแบบ “รถคีออส เลคิเซ่” เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายจำหน่ายไปยังสถานที่ต่างๆ จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 140 แห่ง ตามศูนย์บริการไปรษณีย์ 100 แห่ง และลูกค้าแฟรนไชส์ อีก 40 แห่งกระจายอยู่ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถซื้อแฟรนไชส์ได้ในราคา 3 หมื่นบาท

ขณะที่โรงงานผลิตหลอดไฟแอลอีดีและฟลูออเรสเซนส์แบ่งเป็น 2 โรงแยกออกจากกัน โดยมีกำลังผลิตที่เพียงพอต่อตลาดในและต่างประเทศ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

สำหรับงบประมาณการตลาดปีนี้ ได้เตรียมไว้ 60 ล้านบาท เน้นจัดกิจกรรมบีโลว์ เดอะไลน์ อาทิ งานโรดโชว์ และงานอีเวนต์ ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายตามช่องทางขายต่างๆ ซึ่งภาพรวมตลาดไลท์ติ้ง หรืออุปกรณ์ส่องสว่างปีนี้ในเชิงค้าปลีกอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์แอลอีดีมีสัดส่วนตลาด 500-1,000 ล้านบาท เชื่อว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเลคิเซ่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 15%

ขณะที่ผลประกอบการปี 2555 เติบโต 25% สูงกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ แบ่งเป็นกลุ่มโออีเอ็มในประเทศโต 20% กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง โต 25% กลุ่มงานโครงการ โต 250%

ส่วนผลประกอบการปีนี้ทั้ง 4 กลุ่มคาดว่าจะมีรายได้ 2,600 ล้านบาท หรือโตจากปีก่อน 40% แบ่งเป็นกลุ่มโออีเอ็มในประเทศ 600 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง 600 ล้านบาท กลุ่มงานโครงการ 1,000 ล้านบาท และกลุ่มส่งออก 400 ล้านบาท โต 20% และคาดว่าสัดส่วนการส่งออกจะเพิ่มเป็น 25% ภายใน 3 ปีจากนี้ จากปัจจุบันที่สัดส่วนเล็กน้อย