“ซักเคอร์เบิร์ก” เมินรัดเข็มขัด ทุ่มจ้าง “บอดี้การ์ด” เพิ่ม 4 ล้านดอลล์

“ซักเคอร์เบิร์ก” เมินรัดเข็มขัด ทุ่มจ้าง “บอดี้การ์ด” เพิ่ม 4 ล้านดอลล์

แม้ผลประกอบการแผนก Reality Labs ของบริษัท Meta ขาดทุนกว่า 1 แสนล้านบาทในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา “มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก” ผู้เป็นซีอีโอ ประกาศลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในบริษัท แต่เขากลับเพิ่มงบจ้าง “บอดี้การ์ดส่วนตัว” อีกกว่า 130 ล้านบาทในปีนี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) ว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท Meta Platforms ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram 2 โซเชียลมีเดียยอดนิยม เคยประกาศว่าปี 2566 จะเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” โดยเขาส่งสัญญาณที่จะลดค่าใช้จ่ายบริษัทลง และผลักดันให้เกิดการดำเนินงานที่คล่องตัวขึ้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายหนึ่งกลับวิ่งขึ้นสวนทางแทน คือ “ค่าจ้างบอดี้การ์ดของเขา”

เอกสารที่ Meta ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐเมื่อวันพุธ (15 ก.พ.) ระบุว่า บริษัทกำลังเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยรักษาความปลอดภัยของซักเคอร์เบิร์ก ก่อนหักภาษีเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 484 ล้านบาท) ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 4 ล้านดอลลาร์ (ราว 138 ล้านบาท) จาก 10 ล้านดอลลาร์เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

ค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวยังไม่รวมค่าใช้จ่ายสะสมอื่น ๆ สำหรับรักษาความปลอดภัยของซักเคอร์เบิร์ก โดยก่อนหน้านั้น เขาเผชิญการตรวจสอบจากการใช้เงินด้านความปลอดภัยสูงกว่าบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ

ในปี 2564 บริษัท Meta มีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัยให้ซักเคอร์เบิร์กและครอบครัว มากกว่า 26.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมไปถึงเบี้ยเลี้ยง 10 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษีด้วย

สำหรับประเด็นค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยเข้ามาในจังหวะเดียวกันกับทางบริษัท Meta ประกาศลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นลดพนักงานจำนวนมากเมื่อปลายปีที่แล้ว จากรายได้โฆษณาที่หดตัวลง ค่าใช้จ่ายที่สูงในการพัฒนา Metaverse (เมตาเวิร์ส)

เมื่อไม่นานนี้ บริษัท Meta รายงานผลประกอบการบริษัท แผนก Reality Labs ว่า ขาดทุนในไตรมาส 4 ปี 2565 มากถึง 4.28 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.4 แสนล้านบาท จนนำไปสู่การตรวจสอบผลประกอบการจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น บริษัท Meta ยังเตรียมปรับโครงสร้างองค์กรให้มีขนาดเล็กลง ด้วยการปลดผู้จัดการระดับกลาง และใช้เครื่องมืออย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพิ่มผลงานบริษัทให้ดียิ่งขึ้น และล่าสุดบริษัทประกาศปิดฟีเจอร์ Live Shopping ไลฟ์ขายสดสินค้าออกจาก Instagram เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ในเอกสารที่ Meta ยื่นต่อทางการเมื่อวันพุธ (15 ก.พ.) ระบุด้วยว่า ซักเคอร์เบิร์กได้รับค่าจ้างรายปีเพียง 1 ดอลลาร์เท่านั้นและไม่ได้รับค่าตอบแทนอื่น ๆ ส่วนในปี 2564 เขาได้ค่าตอบเเทนราว 27 ล้านดอลลาร์

 

อ้างอิง: Bloomberg reuters cnbc