เปิดไลฟ์สไตล์ “ชัยวัฒน์” CEO บางจาก ผู้ “เทคโอเวอร์” ปิดตำนานปั๊ม “เอสโซ่”

เปิดไลฟ์สไตล์ “ชัยวัฒน์” CEO บางจาก  ผู้ “เทคโอเวอร์” ปิดตำนานปั๊ม “เอสโซ่”

เปิดไลฟ์สไตล์ “ชัยวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ที่เข้าปิดดีลเทคโอเวอร์ปิดตำนานสถานีบริการน้ำมัน "เอสโซ่"

“ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารที่มากความสามารถอีกหนึ่งคนในแวดวงพลังงาน และยิ่งขณะนี้วิกฤติพลังงานถือเป็นเรื่องท้าทายความสามารถระดับวงกว้าง การบริกหารงานที่ดีไปพร้อมกับการบาลานซ์ชีวิตครอบครัวนั้นก็สำคัญเช่นกัน

ล่าสุด ซุ่มทำสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (เอ็กซอนโมบิล) เมื่อค่ำวันที่ 11 ม.ค. 2566 ขึ้นแท่นยอดขายน้ำมันอันดับ 2 รองจาก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ทันที

คุณชัยวัฒน์ เล่าว่า ด้วยความที่เป็นคนที่เข้าห้องแลปคิดสูตรน้ำมันเองกับทีมบ่อย ๆ แล้ว ตนจะตกผนึกความคิดเสมอว่า จะบริหารงานอย่างไรให้ธุรกิจต่อยอดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว จากการที่ชอบเดินทางไปทั่วประเทศและทั่วโลกบ่อย ๆ และการอ่านข่าวสารตลอดเวลา จะทำให้เกิดความคิดในการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เสมอ รวมถึงการผนึกพาร์ทเนอร์หรือการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ

สำหรับการบริหารจัดการระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตเวลาอยู่กับครอบครัวรวมถึงวันพักผ่อนนั้น หากเป็นในวันพักผ่อนเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า สิ่งแรกที่ทำคือ การอ่านข่าว อ่านหนังสือ รวมถึงการดูทีวีโดยเฉพาะข่าวสารต่าง ๆ เพื่อวางแผนการดำเนินงานไปด้วย และหากมีเวลาไม่ได้ออกไปไหนก็มักจะเลือกการดูหนังกับครอบครัว หรือรายการเกี่ยวกับการแข่งรถต่าง ๆ

นอกจากนี้ ในส่วนของการจัดสรรเวลาเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ส่วนมากจะใช้เวลาว่างยามบ่ายในการนัดกับเพื่อน ๆ โดยเฉพาะการเตะบอล เพราะด้วยการที่ตนเป็นนายกสมาคมสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นหัวหน้าทีมไปในตัว แต่เป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอัพเดทเรื่องราวในวงกว้างด้วย

“ยอมรับว่าทั้งงานและเรื่องอื่น ๆ แทบไม่มี่เวลา แต่จะพยายามบาลานซ์ทุกกิจกรรมให้ได้ บางครั้งวันหยุดก็ยังสั่งงานบ้าง ส่วนการเล่นบอลหลัก ๆ จะเล่นตำแหน่งรับ หรือ เซ็นเตอร์ ฮาฟ (Centre Half) โดยเลือกเตะกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่อายุเท่า ๆ กันอย่างกลุ่มสวนกุหลาบ เพราะจะไปเตะกับเด็กรุ่นหลัง ๆ ที่อายุห่างกันเยอะก็ไม่ไหว”

ส่วนการสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนก็จะมีบ้าง โดยจะแบลือกดื่มไวน์ แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก ซึ่งการเตะบอลจะไม่เหมือนกับการไปออกรอบตีกอล์ฟ ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งเมื่อเตะบอลเสร็จแล้วก็แค่อาบน้ำแล้วแยกย้ายกัน ส่วนทีมฟุตบอลต่างประเทศที่ชื่นชอบต้องยกให้ “เชลซี” จากจุดเริ่มต้นสมัยที่ลูกคนโตมาเรียนที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษราว 12-13 ปีที่แล้ว เมื่อต้องมาหาลูกก็จะแวะมาดูบอลด้วย และอีกกีฬาที่ชื่นชอบคือ การดูแข่งรถ

นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างวินัยได้ดีอีกเรื่องคือ ในทุกเดือนจะได้รับการไว้วางใจจาก “กรุงเทพธุรกิจ” ให้เขียนคอลัมน์ Everlasting Economy ทุกวันศุกร์ที่ 4 ของเดือน ซึ่งทุกเรื่องที่ส่งไปตนเองเขียนเองหมด อีกทั้ง ยังได้รับการตอบรับมาจากกลุ่มผู้ที่อ่านเป็นอย่างดี ซึ่งเนื้อหาที่เขียนจะมาจากการที่ได้อ่านและรับข่าวสารความรู้ใหม่ ๆ จากทั้งหนังสือพิมพ์ และข่าวสารทั่วไปมาเป็นความรู้แล้วปรับเขียนในรูปแบบของตัวเอง ถือเป็นการรวบรวมความรู้รอบตัวต่าง ๆ ด้วย รวมถึงอะไรที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ และไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป ถือว่าช่วยในเรื่องวินัยเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

“มีวันหนึ่งตนไปโรงพยาบาลแล้วมีคนมาทักว่าใช่คุณคนที่เขียนคอลัมน์นี้หรือไม่ ตนบอกว่าใช่ ซึ่งชายที่มาทักบอกว่า อ่านแล้วชอบมาก ได้ความรู้ความเข้าใจเยอะ อีกทั้ง พนักงานก็มีการตอบรับที่ดี”

คุณชัยวัฒน์ เล่าต่อว่า สมัยทำงานอยู่ธนาคารของฝรั่งเศสราว 7 ปี ทางธนาคารจะออกกฎระเบียบที่ 1 ปี จะต้องหยุดงานยาว 14 วัน ดังนั้น ตนจึงเลือกวิธีพาครอบครัวไปพักผ่อนยาว ด้วยการขับรถเที่ยวในยุโรป อาทิ ขับจากซูริก สวิตเซอร์แลนด์ มาจบที่ มิลาน อิตาลี เป็นต้น แต่เมื่อมาอยู่ที่บางจากฯ จะมีบ้างคือพาครอบครัวขับรถไปตามต่างจังหวัดข้ามจังหวัด  เป็นต้น ซึ่งลูก ๆ ก็ชอบมากจนกลายเป็นปกติทุกปีจะต้องจัดทริปขับรถและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวัน

“แม้ตอนนี้ลูก ๆ จะโตแล้วแต่เมื่อมีจังหวะต้องไปทำงานต่างประเทศจะหาเวลาบินไปดูบอลกับลูกสาวคนโตซึ่งตอนนี้อายุ 25 ปีทำงานอยู่บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับโลกร้อน ในขณะที่ลูกสาวคนเล็กอายุ 21 ปี อยู่ระหว่างศึกษาด้านประวัติศาสตร์อยู่ที่อเมริกา”

คุณชัยวัฒน์ ยังอธิบายวิธีในการขับรถในต่างประเทศที่ต้องใช้พวงมาลับยขวาว่า ต้องจำเสมอว่าผู้ขับจะต้องอยู่ตรงกลาง และต้องติดกับรถที่สวนทางมาตลอด โดยที่ตัวเราจะต้องอยู่ตรงเส้นแบ่งถนนตลอดเวลา ถ้าไม่อยู่ติดกับเส้นแบ่งถนน ถือว่าผิดเลนไปแล้ว

สำหรับคุณชัยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบางจากฯ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 เป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานในด้านวิศวกรรม ด้านการเงิน และด้านการบริหารมากกว่า 25 ปี สำเร็จการศึกษา วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) จากสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เริ่มต้นชีวิตการทำงานเมื่อปีพ.ศ.2530 ในตำแหน่งวิศวกร บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะได้รับทุนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ AIT จากนั้น ทำงานในตำแหน่งวาณิชธนากร (Investment Banker) ที่ บริษัท หลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด ก่อนที่ต่อมาจะดำรงตำแหน่งกรรมการ บริษัท SG Crosby (Thailand) และ SG Securities (Singapore) Pte. Ltd.

นอกจากนี้ ยังก่อตั้งและดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นอะราวด์ จำกัด ในปีพ.ศ.2545 ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน ภายหลังท่านได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงานด้านการเงิน การตลาดรวมถึงการบริหารธุรกิจ

คุณชัยวัฒน์ เข้าดำรงตำแหน่งที่บางจากฯ ในครั้งแรกในตำแหน่งกรรมการบริษัท เมื่อปีพ.ศ.2555 และรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2558 ตามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ท่านยังดำรงตำแหน่งในบริษัทในต่างประเทศ คือ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์

สำเร็จการศึกษาหลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (NDC) รุ่นที่ 58 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 10 (วพน.10) หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 26 (วตท.26) และหลักสูตรหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง วิทยาลัยการยุติธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมรุ่นที่ 25 (บยส.25)