ททท. ปรุงรส "ซอฟต์พาวเวอร์" เข้ม โหมอีเวนต์ปลุกรายได้รวมเที่ยวไทย 3 ล้านล้าน

ททท. ปรุงรส "ซอฟต์พาวเวอร์" เข้ม โหมอีเวนต์ปลุกรายได้รวมเที่ยวไทย 3 ล้านล้าน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2566 มุ่งยกระดับการใช้ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ซึ่งประกอบด้วย 5F ได้แก่ Food Film Festival Fashion และ Fight เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติในปีนี้

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เล่าว่า ททท.จะยกระดับการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยเป็น “เครื่องปรุง” เมนูประสบการณ์ท่องเที่ยว เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้รวมทั้งตลาดในและต่างประเทศอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 80% ของปี 2562 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน สร้างรายได้สัดส่วน 65% ของรายได้รวมปีนี้ และจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 250 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้สัดส่วน 35% ของรายได้รวม

“ตอนนี้ ททท.ตั้งเป้ารายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท แต่ก็ฝันว่าอยากจะทำรายได้รวมให้ถึง 3 ล้านล้านบาท กลับไปเท่ากับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคนเท่าเป้าเดิม เพื่อตอกย้ำว่าได้นักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาจับจ่าย”

อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ททท.จะใช้พลังซอฟต์พาวเวอร์ 5F ต่อยอดเศรษฐกิจ ด้วยการจัดงานเทศกาลและอีเวนต์เพื่อโปรโมทและสร้างกระแสการเดินทาง เช่น ด้าน Food” จะจัดงานเทศกาลอาหารนานาชาติ (Bangkok International Food Festival) เล็งจัดที่สยามสแควร์ และยังเตรียมจัดงานเทศกาลอาหารไทยด้วย

ส่วนด้าน Festival” จะมีการจัดงานเทศกาลตรุษจีนที่ย่านเยาวราช ประดับไฟเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน หลังทางการ “จีนเปิดประเทศ” ยกเลิกมาตรการกักตัวขาเข้า มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 เป็นต้นไป พร้อมยกระดับงานประเพณีพื้นเมือง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสู่สากล เช่น งานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ด้าน Fight” ศิลปะการต่อสู้มวยไทย ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ มีกำหนดจัดงานไหว้ครูมวยไทยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก Amazing Muay Thai Festival 2023” ที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บันทึกสถิติโลกโดยกินเนสบุ๊ค เรคคอร์ดส์ มีผู้มาร่วมงานกว่า 3,500 คน

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า โครงการส่งเสริมตลาดผ่าน Thailand’s Soft Power” ดันจุดแข็งของซอฟต์พาวเวอร์ 5F ให้กลายเป็นจุดขาย คือหนึ่งในกลยุทธ์นำเสนอ “โปรดักต์ ไฮไลต์” กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น เรื่อง Food ทาง ททท.เตรียมประกาศให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งอาหารไทย” (Year of Thai Gastronomy) พร้อมโปรโมทตลาดถนนคนเดิน (Walking Street), เรื่อง Festival มีกำหนดจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย Limited Edition 2566” ในช่วงกลางปี ขณะที่เรื่อง Film เตรียมเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว Film City Tour Package ตามรอยภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดัง เพื่อช่วยผลักดันให้กระแสการเดินทางปี 2566 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยตามเป้าหมาย 250 ล้านคน-ครั้ง

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา กล่าวว่า หลังจากนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล เช่น ยุโรป และอเมริกา ฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว จึงเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินทั้งที่ให้บริการเที่ยวบินตรงและแบบต้องแวะต่อเครื่องในตะวันออกกลางและเอเชีย เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่ยังคั่งค้าง (Pent up Demand) ของนักท่องเที่ยว รวมถึงจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ เช่น ในตะวันออกกลางและรัสเซีย ควบคู่การจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายและร่วมงานเทรดโชว์สำคัญเพื่อเจาะทุกเซ็กเมนต์

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ปี 2566 จะเป็นปีของการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่! (The Great Resumption) ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการกลับมาของ “นักท่องเที่ยวจีน” ซึ่งต้องให้ได้ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ มีการใช้จ่ายมากขึ้น และปีนี้จะมี 4 ประเทศได้จำนวนนักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคนแน่นอน ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย

“ตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ที่ผมรับผิดชอบเป็นตลาดระยะใกล้ ถูกวางเป้าทำจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 ให้ได้ 72% ของเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 25 ล้านคน หรือคิดเป็นจำนวน 18 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ทำได้ 7.98 ล้านคน คิดเป็น 67% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 11.8 ล้านคน ซึ่งเกินจากเป้า 10 ล้านคน”