"ไทยเที่ยวญี่ปุ่น" ฟื้นแรง! แซงทุกจุดหมาย ลุ้นแตะ 1.3 ล้านคนปี 66

ทันทีที่ “ญี่ปุ่น” ประกาศ “เปิดประเทศ” ให้เที่ยวเองได้และกลับมาใช้มาตรการ "ยกเว้นวีซ่า" อีกครั้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 ตลาด “นักท่องเที่ยวไทย” ดีดตัวเด้งแรง! ตลอดเดือน ต.ค. มีนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น 34,100 คน เพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. ซึ่งมี 7,600 คน
เอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 4 นี้ (ต.ค.-ธ.ค.2565) น่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นหลายหมื่นคนต่อเดือน สร้างแรงส่งที่ดีถึงปี 2566 คาดมีนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นถึง 1 ล้านคนแน่นอน! เนื่องจากมีปัจจัยหนุนเรื่อง “เงินเยนอ่อนค่า” ส่งผลดีต่อการจับจ่ายของคนไทย
“ถ้าปี 2566 ไม่มีการกลับมาระบาดซ้ำของโควิด-19 จนถึงขั้นต้องน่ากังวล รวมถึงการฟื้นตัวของเที่ยวบินเส้นทาง ไทย-ญี่ปุ่น กลับมาให้บริการมากขึ้นเป็นปกติ ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินเส้นทางนี้เข้าที่เข้าทาง คาดว่าตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นจะกลับมา 100% หรือมีจำนวน 1.3 ล้านคนเท่ากับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19”
ด้านรายงานจาก “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น” (JNTO) ระบุถึงสถิติเมื่อปี 2562 ว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น 31,880,000 คน เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 1,319,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 4.1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินเข้าประเทศญี่ปุ่น มากเป็นอันดับ 6 รองจากเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐ โดยถือเป็นอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคน
เอนก กล่าวในฐานะประธาน บริษัท ยูนิไทย แทรเวล จำกัด ด้วยว่า หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ยูนิไทยได้ลุยขายแพ็กเกจทัวร์พาคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้เดือน มิ.ย.มียอดขายประมาณ 700-800 คน เดือน ก.ค. มียอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่า และค่อยๆ ฟื้นตัวดีต่อเนื่องจนถึงเดือน ต.ค.ที่ญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศ มียอดขายเพิ่มเป็น 6,000 คน ขณะที่ครึ่งแรกของเดือน พ.ย. มียอดขายแล้ว 4,000-5,000 คน คาดตลอดเดือน พ.ย.มียอดขายกว่า 8,000 คน
“สำหรับยอดขายแพ็กเกจทัวร์ไปญี่ปุ่นช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ตอนนี้มียอดจองเต็ม 100% แล้ว และไม่ใช่แค่ยอดจองของยูนิไทยเท่านั้น แต่ทุกบริษัททัวร์ก็มีนักท่องเที่ยวไทยจองเข้ามาเต็มแล้วเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม “น่าเสียดาย” ที่ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยยังฟื้นตัวค่อนข้างช้ากว่า! เป็นเพราะโดนนักท่องเที่ยวไทย “แย่งตั๋วเครื่องบิน” นอกจากนี้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นยังไม่ค่อยมั่นใจ เลยยังไม่เริ่มขายอย่างจริงจัง ทั้งยังมีปัจจัยเงินเยนอ่อนค่ากระทบด้วย
ทาดาชิ ชิมูระ ประธาน Japan Association of Travel Agents (JATA) ซึ่งมีสมาชิกรวมประมาณ 1,100 บริษัท กล่าวบนเวทีภายในงานสัมมนา “Japan-Thailand Tourism Seminar: Embark upon a new adventure, Discover new treasures” จัดโดย JNTO เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่า มองว่าปัจจัย “เงินเยนอ่อนค่า” ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย เพราะเงินบาทเองก็อ่อนค่าไปในทิศทางเดียวกัน หากสายการบินต่างๆ ขยายเครือข่ายเส้นทางบินไทย-ญี่ปุ่นมากขึ้น ก็น่าจะช่วยกระตุ้นดีมานด์การเดินทางได้
อย่างไรก็ตาม “Mindset” ของคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับการไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องพยายามช่วยกันปรับให้กลับมาปกติ โดยยังเชื่อมั่นว่าจะฟื้นตัวกลับมา เริ่มจากการท่องเที่ยวระยะใกล้ก่อน เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็น “ความต้องการพื้นฐาน” ของผู้คน!
สำหรับกลยุทธ์ของ JATA ในการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย ต้องหา “คอนเทนต์” ใหม่ๆ มาเปิดตลาดเพิ่ม จากเคยนิยมไปเที่ยวกรุงเทพฯและเชียงใหม่ ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์น่าสนใจในเมืองรองต่างๆ เช่น เชียงราย สงขลา ขอนแก่น บุรีรัมย์ และกาญจนบุรี
พร้อมยกระดับมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยว ยกระดับความร่วมมือกับองค์กรจัดการด้านการท่องเที่ยว (Destination Management Organization : DMO) และบริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินทาง (Destination Management Company : DMC) รุกทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล และปรับตัวให้ยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นิยมเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก เน้นพักที่เดียวแล้วใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการเตรียมรับมือเพื่อสู้กับมหันตภัยอื่นๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ จากสถิติขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นออกไปเที่ยวต่างประเทศในช่วง 9 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2562 จำนวน 226 ล้านคน โดยเป็นการไปเที่ยวประเทศในเอเชียตะวันออก 79 ล้านคน และเที่ยวประเทศในกลุ่มอาเซียน 40 ล้านคน
“และเมื่อดูเฉพาะจุดหมายประเทศไทย เมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมา 1.8 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่น 1.3 ล้านคน เป็นตลาดที่ค่อนข้างสมดุลสำหรับการท่องเที่ยว 2 ทาง”