'สุพัฒนพงษ์' คาดคลังชง ครม. 15 พ.ย.ต่ออายุลดภาษีดีเซล ชี้เก็บรายได้เกินเป้า

'สุพัฒนพงษ์' คาดคลังชง ครม. 15 พ.ย.ต่ออายุลดภาษีดีเซล ชี้เก็บรายได้เกินเป้า

"สุพัฒนพงษ์" คาดคลังชงมาตรการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตรเข้า ครม. 15 พ.ย.นี้ ก่อนมาตรการเดิมหมดอายุ 20 พ.ย. ระบุราคาน้ำมันยังผันผวน แต่หากคลังจัดเก็บรายได้เกินเป้าก็สามารถต่อมาตรการออกไปได้

วันนี้ (10 พ.ย.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงประเด็นการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่จะหมดอายุมาตรการในวันที่ 20 พ.ย.นี้ว่าในเรื่องนี้ยังไม่ได้หารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แต่หากมาตรการจะหมดอายุในวันที่ 20 พ.ย.ก็มีความเป็นไปได้ที่กระทรวงการคลังจะเสนอต่ออายุมาตรการนี้เข้ามาในการประชุม ครม.วันที่ 15  พ.ย.นี้ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ

 

 

“จริงๆเรื่องราคาน้ำมันมีปัจจัยผันผวนมากหลายเรื่อง แต่คาดว่ากระทรวงการคลังจะต่ออายุมาตรการออกไป ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรหากการจัดเก็บรายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

\'สุพัฒนพงษ์\' คาดคลังชง ครม. 15 พ.ย.ต่ออายุลดภาษีดีเซล ชี้เก็บรายได้เกินเป้า

ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้มาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลทั้งหมด 4 ครั้ง

โดยครั้งแรกช่วงวันที่ 18 ก.พ.-20 พ.ค.65 ลดภาษีลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 18,000 ล้านบาท

ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.65 เป็นเวลา 3 เดือน  ลดภาษีดีเซลลงลิตรละ 5 บาท รัฐสูญเสียรายได้ 30,000 ล้านบาท

ครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 21 ก.ค.-20 ก.ย.65 เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญเสียรายได้ 20,000 ล้านบาท

และ ครั้งที่ 4 ช่วงวันที่ 21 ก.ย. - 20 พ.ย.65 เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญเสียรายได้ 20,000 ล้านบาท

โดยมาตรการลดภาษีดีเซลทั้ง 4 ครั้ง ทำให้รัฐสูญรายได้รวมแล้ว 88,000 ล้านบาท