‘ไทยเบฟ’ ชวนผู้บริโภครวมพลังรักษ์โลก สานความยั่งยืน

‘ไทยเบฟ’ ชวนผู้บริโภครวมพลังรักษ์โลก สานความยั่งยืน

เปิดแผนสร้างความยั่งยืน จาก "แม่ทัพ" ธุรกิจชั้นนำอย่าง "ไทยเบฟ" ผ่านงาน Sustainability Expo 2022 กับเวที CEO Panel Discussion : Leading Sustainable Business ซึ่ง "ฐาปน สิริวัฒนภักดี" ชวนทุกคนรวมพลังรักษ์โลก สานความยั่งยืน

เมื่อไม่มีโลกใบที่ 2 ให้อยู่กินใช้ทรัพยากรอีกต่อไป หลายปีที่ผ่านมาภาครัฐ เอกชนทั่วทุกมุมโลก จึงหันมาให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ขณะที่ธุรกิจในประเทศไทย ตื่นตัวเรื่องความยั่งยืนไม่แพ้กัน ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะรูปแบบการกีดกันทางการค้าเปลี่ยนไป ไม่ใช่ภาษีมากขึ้น แต่เป็นมาตรการต่างๆ เช่น การผลิตสินค้าและบริการที่สร้างผลกระทบน้อย ทั้งลดขยะ การปล่อยมลพิษ ปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดูแลแรงงาน การจ้างงานอย่างมีมนุษยธรรม และอีกหลายข้อ

นอกจากนี้ ยังมีกรอบการพัฒนาโลกที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ(UN) หรือ SDGs ที่มีทั้งหมด 17 การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Conference of the Parties (COP 26) การ เป็นเหมือนกติกาใหม่ที่ภาพรวมทั้งประเทศ และภาคธุรกิจต้องให้ความร่วมมือเป็นส่วนหนึ่งของการลดผลกระทบต่อโลก

วาระใหญ่ของโลก เมื่อมาถึงประเทศไทย และฝั่งเอกชนที่เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจใหญ่รักษ์โลก ต้องยกให้การจัดงานมหกรรมด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาคในอาเซียน หรือ Sustainability Expo 2022 ซึ่งเอกชน “ยักษ์ใหญ่” มารวมแสดงพลังครั้งสำคัญ เช่น บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เอสซีจี ฯ

ในงาน Sustainability Expo 2022 มีกิจกรรมไฮไลท์มากมาย และอีกเวทีที่น่าสนใจคือการแบ่งปันเรื่องราว แผนการขับเคลื่อนความยั่งยืนของแม่ทัพธุรกิจ “แสนล้าน” ผ่านเวที CEO Panel Discussion : Leading Sustainable Business

ภาพรับรู้เกี่ยวกับองค์กรธุรกิจ "ไทยเบฟ" ปัจจุบันคือผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสร้างรายได้ระดับแสนล้านบาท และเป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างเศรษฐกิจไทยแกร่ง

ทำไมไทยเบฟลุกขึ้นมาให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาอย่างยั่งยืน ทุ่มเทสรรพกำลัง ระดม “ผู้นำ” แต่ละองค์กรมาร่วมกันทำงานเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

คำตอบจาก ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพแผนพัฒนาความยั่งยืน เกิดจากรากฐานธุรกิจไทยเบฟ รวมถึงกิจการที่คุณพ่อ นั่นคือประธานเจริญ สิริวัฒนภักดี เริ่มต้นสร้างธุรกิจแรกๆคือการผลิตบรรจุภัณฑ์หรือแพ็คเกจจิ้งขวดแก้ว และมีการนำวัตถุดิบมา “หมุนเวียน” ใช้ในในโรงงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

‘ไทยเบฟ’ ชวนผู้บริโภครวมพลังรักษ์โลก สานความยั่งยืน ฐาปน สิริวัฒนภักดี

“คุณรุ่งโรจน์ (แม่ทัพใหญ่เอสซีจี) เคยถามเราอย่างเรียบง่าย ถึงการทำเรื่องราวเกี่ยวโยงกับความยั่งยืนแบบไหน เลยทำให้ผมกลับมานึกถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจจากทางคุณพ่อ คือแพ็คเกจจิ้งขวดแก้ว มีการนำมาใช้หมุนเวียน กล่าวคือเราทำเรื่องเหล่านี้มานานแค่ไหน คำตอบคือราว 65 ปีที่คุณพ่อทำ เพราะคุณพ่อค้าขายตั้งแต่อายุ 13 ปี และปีนี้คุณพ่อ 78 แล้ว”

การก่อเกิดธุรกิจมีประวัติศาสตร์แตกต่างกัน ย้อน 60 ปีก่อน เป็นยุคแห่งการวางรากฐานการผลิต เน้นลงทุน ใส่เงินลงทุนไปกับการสร้างโรงงาน เป็นเจ้าของกิจการ พอ 10 ปีถัดมา จะเป็นยุคของการ “ขายเก่ง” ขยับมาอีกเข้าสู่ช่วงการตลาด และยุค 90 ข้อมูล เทคโนโลยีมีบทบาทต่อการทำตลาดมากขึ้น จนถึงยุคของการร่วมไม้ร่วมมือ(Collaboration) ธุรกิจที่อยู่บนกระดานเดียวกัน

ปัจจุบันบริบทโลกธุรกิจเปลี่ยน โดยเฉพาะเงื่อนไขการค้าขายข้ามโลกไม่เหมือนเดิม อีกด้าน “มิติความยั่งยืน” ก็แตกต่างจากอดีต ทว่า ความยั่งยืนกลายเป็นสิ่งที่อยู่ “ใกล้ตัว” ทุกคนมากขึ้น

ฐาปน มองว่า การดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับความยั่งยืน ผู้ประกอบการมีการทำอยู่แล้ว เพียงแต่ปัจจุบันถูกยกระดับและกลานขานเป็น “ระดับสากล” มากขึ้น

การที่ทั้งโลกลุกขึ้นมาตระหนักเรื่องความยั่งยืน รักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผลักดันหลากหลายกิจกรรมให้เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในชนวนเหตุแห่งความวุ่นวายล้วนมาจากการ “บริโภคนิยม”(Consumerism) ที่เป็นความต้องการทั้ง Need และ Demand ของมนุษย์ทั้งสิ้น แม้ว่าดีมานด์ของผู้บริโภคจะเป็นขุมทรัพย์แห่งโอกาสทางการค้าก็ตาม

เมื่อทุกภาคส่วนมุ่งขับเคลื่อนความยั่งยืนช่วยโลก เป้าหมายใหญ่แรกที่ต่างตั้งไว้คือ ปี 2030 หรือ พ.ศ.2563 ภารกิจใหญ่ โดยเฉพาะองค์กร ภาคธุรกิจพยายามมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์(Net Zero) แต่สิ่งที่ต้องตั้งคำถามต่อคือ “ตัวบุคคล” ที่มีส่วนสร้างผลกระทบพร้อมมีส่วนร่วมแค่ไหน

“ถ้าระดับโลก ระดับประเทศ องค์กรธุรกิจอยากเห็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon neutrality) เราทุกคนต้องถามตัวเองว่าอยากมุ่งไป Net Zero ด้วยหรือไม่ ยูทิไลฟ์ตัวเองแค่ไหน”

“ไทยเบฟ” ในฐานะองค์กรธุรกิจไทย เคยหารือกับต่างชาติ ระยะแรกของการลุยภารกิจความยั่งยืน มีทั้งเข้าใจกรอบแนวคิด พยายามช่วยกันดำเนินการ พร้อมร่วมด้วยช่วยกันเป็นลำดับขั้น

ขณะที่การสร้างสรรค์กิจกรรม Sustainability Expo 2022 ส่วนหนึ่งถือเป็นการรวมพลังองค์กรธุรกิจชั้นนำที่อยู่ “ต่างอุตสาหกรรม” เพื่อสร้างการรับรู้ และช่วยกันสร้างขับเคลื่อนธุรกิจสร้างความยั่งยืนให้โลกอย่างแท้จริง

“ถือเป็นพันธสัญญา ว่าเราไม่ทำคนเดียว มีความเข้าใจตรงกันเพื่อรวมพลังไทยแลนด์เน็ตเวิร์ค และผู้นำองค์กรที่อยู่บนเวทีเดียวกันมีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมให้ยั่งยืน อีกมิติที่ให้ความสำคัญ คือการเห็นเด็กๆน้องหนูๆ หากมีความสนใจบริหารเรื่องความยั่งยืน เริ่มจากตัวเอง เช่น รับประทานอาหารไม่เหลือทิ้ง ใส่ใจเรื่องเหล่านี้จะช่วยลดประเด็นปัญหาต่างๆได้ เพราะทุกคนช่วยสร้างสมดุลเพื่อโลกที่ดีกว่า เพื่อทุกคนได้”