DELTA รีเทิร์นตลาดหุ้น โบรกเกอร์พาเหรดอัปราคาใหม่
จากฉายาหุ้นที่สุดแห่งปี 2563 บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ด้วยราคาหุ้นทะยานแตะ 838 บาท (28 ธ.ค.2563) จากราคาหุ้นต้นปีเดียวกัน 53.50 บาท จนราคาลงมาลึก 300 กว่าบาท ปัจจุบันราคาหุ้นกลับมาเหนือ 500 บาทอีกครั้ง
ราคาหุ้น DELTA เป็นหุ้นมหัศจรรย์เพราะแรงผลักดันราคาหุ้นเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจผสมกับพื้นฐานของบริษัทที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในช่วงโควิด -19 ปัจจัยแรกการเข้าสู่ทำเนียบ SET 50 ด้วยขนาดมูลค่าบริษัท มูลค่าการซื้อขายที่เข้าเกณฑ์ แม้จะมีฟรีโฟลตต่ำ 22 % แต่ไม่ได้ผิดกฎเกณฑ์แต่อย่างใด
หากกลับกลายเป็นจุดพลุให้หุ้น DELTA ถูกจับเก็งกำไรกันอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนหุ้นในตลาดที่น้อยเกิดการเสนอซื้อ หรือ Bid ในจำนวนหุ้นที่มาก แต่ฝั่งขาย หรือ Offer กลับน้อย จึงทำให้ราคาหุ้นขึ้นแบบติดจรวดถัดมาคือ ความตั้งใจของบริษัทที่อาศัยช่วงโควิด-19 ปี 2563-2564 ปรับธุรกิจขนานใหญ่ไม่ว่าจะเป็นการขายโรงงานที่ไม่ทำกำไรออกไป เพื่อปรับโครงสร้างบริษัทที่มีโรงงานกระจายในหลายประเทศ
อาทิ การเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์อีวี การขาดแคลนชิปตลาดโลกเทรนด์ธุรกิจโลกเข้าสู่เทคคอมพานี และการกลับมาเติบโตของภาคส่งออกจากการค้าขายระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงทำให้การปรับธุรกิจของ DELTA ก่อนหน้านี้กลายเป็นจุดแข็งให้ราคาหุ้นในที่สุด
เมื่อราคาหุ้นร้อนแรงเกินจนทำไปสู่การปรับเกณฑ์คำนวณฟรีโฟลตใหม่ทำให้ราคาหุ้น DELTA เป็นหุ้นที่ถูกขายปี 2564 อย่างหนัก ซึ่งท่ามกลางราคาหุ้นที่ตอบรับกับข่าวดังกล่าวหากแต่ต้องยอมรับว่าพื้นฐานธุรกิจของ DELTA ที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ตัวเลขผลประกอบการดีเกินคาด
ด้วยไตรมาส 2 ปี 2565 รายงานผลประกอบการ มียอดขายสินค้า และบริการในไตรมาสนี้ที่ 28,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.7 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งยอดขายส่วนงานเพาเวอร์ อิเล็กทรอนิกส์เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center, Server & Cloud Storage
โดยเฉพาะเพาเวอร์ซัพพลายที่มีการออกแบบเฉพาะ (Custom Design Power)รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Power)กลุ่มโซลูชันพัดลม และระบบจัดการความร้อน (Fan & Thermal Management Solution)
กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีจำนวน 3,864 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 190.9 % จากกำไรไตรมาสเดียวกัน ของปี 2564 และคิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 6.4% ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว จากความสำเร็จในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง
ร่วมกับการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 346 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้มีจำนวน 4,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.6% จากปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 3.42 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 1.33 บาทต่อหุ้น ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
จากตัวเลขดังกล่าวเรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงธุรกิจของ DELTA ส่งผลด้านผลประกอบการชัดเจน จึงทำให้สิ่งตามมามีการปรับเปลี่ยนราคาเป้าหมายจากฐานกำไรที่คาดหมายสูงขึ้นปี 2565
หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ปรับราคาเป้าหมาย DELTA ปีนี้ขึ้นไปสูงที่สุด บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสิน DELTA ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 และ 2567 ขึ้นจากเดิม 13% - 25% และ 21% ตามลำดับ และกำไรสุทธิโดดเด่นด้วยการขยายตัว +94% (y-y) ในปี 2565 มาที่ 12,990 ล้านบาท คงคำแนะนำ Trading Buy และเพิ่ม TP มาที่ 520 บาท จากเดิม 400 บาท (เพิ่มพีอีเป็น 50 เท่า =Mean+0.25SD) และให้ DELTA คู่กับ KCE (TP 81 บาท) เป็น Top pick ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
หลังจากมีมุมมองเป็นบวกเพิ่มขึ้น หลัง conference call เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ปี 2565 ยังค่อนข้างสดใสทั้งในด้านยอดขายและ GPM โดยมุมมองยังบวก ต่อสินค้ากลุ่ม Data center และ DC fan ที่ขยายตัว
รวมทั้งกลุ่มรถยนต์ที่เคยกังวลว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการล็อกดาวน์ใน จีนจะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว แต่ DELTA ยังมียอดขายในกลุ่มนี้ดีกว่าคาด นอกจากนี้GPM ที่ได้ผลบวกจากทั้งค่าเงินและวัตถุดิบ กลุ่มรถยนต์ที่ราคาต่ำ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
