บลจ.เอ็มเอฟซี เพิ่มโอกาสการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโลกใบใหม่ที่ยั่งยืน

บลจ.เอ็มเอฟซี เพิ่มโอกาสการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโลกใบใหม่ที่ยั่งยืน

บลจ.เอ็มเอฟซี ส่งกองทุนใหม่ “MINFRA” เพิ่มโอกาสการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในโลกใบใหม่ที่ยั่งยืน เตรียมเสนอขายครั้งแรก 20-27 ก.ค. นี้ สร้างทางเลือกในการลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง และมีความผันผวนต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนกำลังเป็นที่น่าจับตามอง และแตกต่างจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ สนามบิน ทางด่วน ทางรถไฟ  

ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนจะลงทุนในธุรกิจด้านน้ำ พลังงานสะอาด การขนส่งและการจัดเก็บอาหาร  โครงข่ายไฟฟ้า การจัดการของเสีย  ที่มีอุปทานที่จำกัด มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐ  และสอดคล้องกับ Sustainable Development Goals  (SDG) คือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ

ล่าสุด นำเสนอกองทุนใหม่ในชื่อ ‘กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ซัสเทนเนเบิล อินฟราสตรัคเจอร์’ หรือ MINFRA ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ ประเภท Feeder Fund ที่กระจายการลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (Sustainable Infrastructure) และยังเป็นทางเลือกในการลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง และมีความผันผวนต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก โดยจะเปิดให้จองซื้อได้ระหว่างวันที่ 20 - 27 กรกฎาคม 2565 นี้ จำนวนเงินขั้นต่ำของการสั่งซื้อครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งต่อไป 500 บาท สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ 

ป้จจัยสนับสนุนเพิ่มเติมที่ทำให้กองทุน MINFRA น่าลงทุนในช่วงนี้ คือ

1) Not overcrowded Trade หุ้นกลุ่มนี้ ยังไม่ได้มีการซื้อขายคับคั่ง โดยมีระดับ valuation ที่น่าสนใจ และแนวโน้มตลาดที่เติบโตสูง และ

2) Stable Income ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ และมีรายได้ปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อ และธุรกิจอยู่ในตลาดผู้ขายน้อยราย หรือกึ่งผูกขาด ที่สามารถจ่ายปันผลสม่ำเสมอ

3) Diversification & Downside Protection ช่วยเรื่องกระจายการลงทุนได้ดี เนื่องจากหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ น้อย ประกอบกับที่ผ่านมา มีความผันผวนที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น และสามารถปกป้องพอร์ตการลงทุนในตลาดขาลงได้ 

  4) Growth คาดเงินลงทุนมากกว่า 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนภายในปี 2573 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตสูงต่อเนื่อง  

5) Alpha Generation  สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จากการลงทุนในหลากหลายธุรกิจที่ขยายตัวตามความต้องการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น ทั้งในด้าน พลังงานสะอาด (ที่จะเติบโตจนมีสัดส่วนเป็น 28% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ในปี 2583), น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค, อาหาร (ที่จะเพิ่มขึ้นอีก+70%, ในปี 2593) 
MINFRA ลงทุนในกองทุนหลัก คือ KBI Global Sustainable Infrastructure Fund กระจายการลงทุนไปในกลุ่มธุรกิจหลากหลายที่ได้รับประโยชน์จากแผนการลงทุนตามนโยบายรัฐ ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกองทุนดังกล่าวมุ่งเน้นลงทุนในโครงส้รางพื้นฐานที่ยั่งยืน และมีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อเนื่อง และเพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมลพิษ

นอกจากนี้ กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว และบริหารจัดการกองทุนโดย KBI Global Investor Ltd. ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และมีประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนเฉลี่ยกว่า 22 ปี  กองทุนหลักมีความเสี่ยง (ความผันผวน) ต่ำกว่า แต่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ดัชนีหุ้นโครงสร้างพื้นฐานโลก (S&P Global Infrastructure Index) ทั้งในภาพรวม และในภาวะตลาดขาขึ้นหรือขาลง  

ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดรับสม่ำเสมอเป็นหลัก (80%) และเสริมด้วยธุรกิจเติบโตสูง (20%) โดยธุรกิจที่รายได้สม่ำเสมอ ได้แก่ โครงข่ายไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพลังงานกังหันลมหรือแสงอาทิตย์ การจัดการที่ดิน ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ การจัดการน้ำและบำบัดน้ำเสีย การนำขยะมาใช้ใหม่ และธุรกิจที่เน้นเติบโต ได้แก่ การจัดการสิ่งแวดล้อม ขนส่งอาหาร จัดเก็บพลังงานไฟฟ้า โครงข่ายพลังงาน น้ำ และการเกษตร

นอกจากนี้ มีรายการส่งเสริมการขายพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน MINFRA ระหว่างวันที่ 20-27 กรกฎาคม 65 เมื่อลงทุนครบทุกๆ 1 ล้านบาท และถือครองจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 มีสิทธิรับของรางวัลหน่วยลงทุน MINFRA มูลค่า 500 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ศึกษารายละเอียดรายการส่งเสริมการขายเพิ่มเติมได้ที่นี่
   
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC จะจัดงานสัมมนา "คว้าโอกาสการลงทุนในโลกใบใหม่ที่ยั่งยืน กับกองทุน MINFRA” ในวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00 – 16.10 น. โดยมี ดร.ชาญวุฒิ รุ่งแสงมนูญ, FRM ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กองทุนต่างประเทศ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) บรรยายในหัวข้อ “Why invest in Global Sustainable Infrastructure?”  และคุณ Peter Fox, Investment Specialist, KBI Global Sustainable Infrastructure Strategy ร่วมให้ข้อมูลในหัวข้อ ‘ลักษณะเด่นของ KBIGI Global Sustainable Infrastructure ที่ตอบโจทย์ในการลงทุน’ รวมไปถึงเรื่องของแนวโน้มตลาด โอกาสการเติบโต และธุรกิจที่น่าสนใจในการลงทุน โดยงานสัมมนาดังกล่าวสามารถรับชมได้ผ่านระบบ Facebookและ Youtube  ของ MFC
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์