Thaioil Weekly Oil Market and Outlook as of 18 July 2022

Thaioil Weekly Oil Market and Outlook as of 18 July 2022

ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน ท่ามกลางความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 93-104 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 96-106 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

Thaioil Weekly Oil Market and Outlook as of 18 July 2022

 

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (18-22 ก.ค.65) 

ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดัน หลังจากสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้นกว่า 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ( y-o-y) ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ตลาดกังวลว่า FED อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าเดิม และอาจส่งผลให้โลกเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนที่ยังไม่ดีนัก และล่าสุดจีนกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดตามนโยบายปลอดโควิดที่ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศอีกครั้ง ส่งผลกดดันต่อการฟื้นตัวของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลก 

 

 


 

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

-  ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดตัวเลขเดือน มิ.ย. 65 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 9.1%  เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ( y-o-y) ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ FED อาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายกว่า 100 bps หรือ 1.0% ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่     26-27 ก.ค. 65 นี้ และทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่ 2.25-2.75% ส่งผลให้ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอาจกดดันปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน

-  EIA เดือน ก.ค. 65 ปรับลดคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2022 ราว 0.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ( y-o-y) สู่ระดับเฉลี่ยที่ 99.57 ล้านบาร์เรล จากรายงานคาดการณ์เดือนก่อนหน้า เนื่องจากตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังจากที่ FED ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากถึง 75 bps นอกจากนี้ ธนาคารกลางในหลายประเทศใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลกดดันปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน 

- จีนอาจประกาศล๊อกดาวน์ครั้งใหม่เมืองเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากพบผู้มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นจาก 7 รายเป็น 15 รายในช่วงวันที่ 4-10 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยจีนยังคงใช้มาตรการเข้มงวดและล๊อกดาวน์บางสถานที่ในเมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ปักกิ่ง และมาเก๊า ตามนโยบายปลอดโควิด-19 ที่ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการฟื้นตัวของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลก
 

 

 

 

Rystad เดือน ก.ค. 65 คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียเดือน ก.ค. 65 มีแนวโน้มปรับลดลงมาอยู่ที่ 676,000 บาร์เรลต่อวัน จากการประท้วงเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ในท่าเรือสำคัญได้แก่ Es Sider และ Ras Lanuf ขณะที่ท่าเรือ Zuetina และ Marsa el-Brega ยังอยู่ภายใต้ภาวะสุดวิสัยและไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

-  รัสเซียประกาศระงับการดำเนินการชั่วคราวของท่อส่งน้ำมัน CPC ในคาซัคสถานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากอ้างว่า เกิดจากปัญหาทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม Tengizchevroil ผู้ดำเนินงานของแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ Tengiz ในคาซัดสถาน ประกาศว่าการส่งออกน้ำมันผ่านท่อดังกล่าวยังไม่ถูกระงับ

- เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยุโรปเดือน มิ.ย. 65 ตลาดคาดการณ์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 21 ก.ค. 65 คาดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือน ก.ค. 65

 

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 ก.ค. 65)  

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 6.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 97.59 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับลดลง 5.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 101.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 98.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลัง FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 ขณะที่ EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค. 65 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียที่หยุดชะงักลง เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ