2 มือล้วงกระเป๋า 2 เท้าเตรียมต่อคิว “บาร์บีคิวพลาซ่า” ลุยบุฟเฟ่ต์ตามสัญญา!

เริ่มวันแรก! สำหรับโปรโมชั่น “อิ่มไม่อั้นมหาชน” ที่แบรนด์ร้านอาหารดังอย่าง “บาร์บีคิวพลาซ่า” ทำตามสัญญาที่ประกาศไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าคูหากากบาทเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งให้คำมั่นไว้ว่า หากมีประชาชนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงทะลุ 2 ล้าน จะนำโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง กลับมาสมนาคุณให้กับประชาชนชาวไทย

ทั้งนี้ 18 กรกฎาคม 2565 เป็นดีเดย์ ที่แบรนด์ได้คิกออฟบุฟเฟ่ต์ ซึ่งไม่บ่อยนักที่ “บาร์บีคิวพลาซ่า” จะลงมาเล่นกลยุทธ์ราคาและเปิดให้ผู้บริโภคสายกินได้เข้าไปใช้บริการ หรือเปิดจะมีเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

ทว่า ด้วย Realtime Marketing ที่แบรนด์ของเกาะกระแสการเมือง(ซึ่งน้อยนักที่แบรนด์จะเอาตัวไปเอี่ยวกับการบ้านการเมือง) ซึ่งกำลังมาแรงมาก เพราะเป็นการเลือกตั้งในรอบหลายปีเลยทีเดียว

เหนือกว่าเกมการเมือง คือ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ได้สร้าง Brand Love ให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคจำนวนมาก ด้วยจุดแข็งด้านอาหารและ “น้ำจิ้มบาร์บีคิว” ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของร้านและยืนหนึ่งในวงการปิ้งย่างมานาน รวมถึงการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง จากร้านอาหาร แต่สามารถนำ “มังกรเขียวบาบีก้อน” ไป Collab กับธุรกิจข้ามสายพันธุ์ จนทำให้มีสาวกในวงกว้างยิ่งขึ้น

สำหรับคำมั่นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างครั้งนี้ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ยังมีการเปิดรับ “ฟังเสียงผู้บริโภค” ถึงเวลาที่ต้องการให้โปรโมชั่นนี้ยืนระยะในตลาด ซึ่งแบรนด์เคาะออกมาทั้งสิ้น 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 ก.ค.65 นั่นเอง

ทุกครั้งที่ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ออกมาลุยบุฟเฟ่ต์ จะเห็นกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายดีมาก แต่ละวันแต่ละสาขาจจะมีคน “เข้าคิว” ลิ้มลองเมนูโปรดจำนวนมาก เช่นกันกับครั้งนี้ ที่ความร้อนแรงยังมีเช่นเคย หยั่งได้จากการสอบถามรายละเอียดทางเพจ รวมถึงผู้บริโภคแท็กหาเพื่อนฝูงเพื่อเตรียมตัวไปตำบุฟเฟ่ต์นั่นเอง

แคมเปญ “อิ่มไม่อั้นมหาชน” ที่ชูคอนเซ็ปต์รสชาติความเจริญอาหารไม่จำกัดทั่วไทยมีให้เลือกอร่อยได้ 4 รูปแบบความสุข ได้แก่ ชุดเจริญหมู เน้นหมูเป็นจานโปรด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 333 บาท ชุดเจริญอัปเกรด จะมีเมนูเพิ่มคือข้าว น้ำและไอศกรีม ราคาเริ่ม 402 บาท ชุดเจริญเนื้อเจริญทะเล เลือกเน้นเนื้อ หรือทะเลตามชอบ ราคา 442 บาท และชุดเจริญชุดใหญ่ ที่บริการครบทุกเมนู ของคาว หวาน น้ำได้หมด ราคา 511 บาท

“บาร์บีคิวพลาซ่า” รายงานว่า รอบนี้มีความพิเศษตรงที่เพิ่มเมนูให้ผู้บริโภคอีก 14 รายการ โดยขยายเวลาเปิด-ปิด ใน 33 สาขา จากที่มีทั้งหมดกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ

เกือบ 2  เดือน หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แคมเปญนี้คงสมใจผู้บริโภคหลายคนที่ตั้งตารอ ส่วนผลลัพธ์ต้องติดตาม เพราะแต่ละครั้งที่แบรนด์ลุยบิ๊กแคมเปญ กระแสตอบรับดี มักมีกรณีดราม่า ให้ได้เรียนรู้กันเสมอ