BIOTEC มั่นใจธุรกิจปาล์มน้ำมัน ดันรายได้โตต่อเนื่อง

BIOTEC มั่นใจธุรกิจปาล์มน้ำมัน ดันรายได้โตต่อเนื่อง

มั่นใจผลประกอบการปีนี้โตต่อเนื่อง หลังลุยลงทุนในธุรกิจน้ำมันปาล์ม เพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยงธุรกิจภาณิชย์นาวี ชี้แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มยังเพิ่มขึ้น

 แหล่งข่าวจากบริษัทไบโอ กรีน เอ็นเนอร์ยี่ เทค จำกัด (มหาชน) หรือ BIOTEC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการบริษัทยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 หลังจากในไตรมาสที่ 1 ทำกำไรสุทธิ 56.98 ล้านบาท และคาดการณ์ได้ว่าเนื่องจากบริษัทได้เพิ่มการลงทุนในธุรกิจน้ำมันปาล์ม จากเดิมที่มีการลงทุนในธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพาณิชย์นาวี 

ลักษณะการลงทุนในธุรกิจน้ำมันปาล์ม ได้แก่ การประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปาล์มน้ำมัน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งธุรกิจพาณิชย์นาวีเพียงอย่างเดียวแล้ว การลงทุนในธุรกิจน้ำมันปาล์ม ยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้บริษัทอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพราะธุรกิจน้ำมันปาล์มถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจ และมีโอกาสในการเติบโตสูง

การลงทุนในธุรกิจน้ำมันปาล์มของบริษัท จะเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันไบโอดีเซล มีกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ 200,000 ลิตรต่อวัน โดยมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานทดแทนไบโอดีเซลที่สำคัญของภาคใต้ 
 

แหล่งข่าวกล่าวว่า เพื่อเสริมสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตและเพิ่มปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล รวมทั้งเชื่อมโยงการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นเครือข่ายกับกลุ่มธุรกิจปาล์มของบริษัทในด้านต่างๆ เช่น การจัดซื้อและจำหน่ายวัตถุดิบต่างๆ การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปาล์มน้ำมัน การจัดเก็บและดูแลรักษาน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการให้บริการด้านการจัดการขนส่งทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของบริษัทให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ

 ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันปาล์มทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ พบว่า ธุรกิจน้ำมันปาล์ม ยังคงเป็นธุรกิจที่โอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2565 โดยในไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน การห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของมาเลเซีย และให้ผลผลิตถั่วเหลือง และเรพซีดลดลง เป็นต้น

แม้ว่าราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 แต่ยังสามารถคาดการณ์ว่า การลดลงของราคาจะเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น เพราะตลอดทั้งปีนี้ ราคาน้ำมันปาล์มจะยังคงเคลื่อนไวอยู่ในระดับสูง