'สุพัฒนพงษ์' ยันสำรองน้ำมัน - ก๊าซ ในประเทศเพียงพอรับวิกฤต มั่นใจไม่ขาดแคลน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเมื่อวันที่ 4 ก.ค.65 ว่า เป็นการ kickoff Metting เป็นการประชุมที่ดี เพื่อฉายภาพให้เห็นครบทุกเรื่องและทุกมิติ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้นำเสนอแผนซ้อมฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีเกิดการขาดแคลนจริง ๆ ขึ้นมา ซึ่งมีการนำเสนอทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงงานด้านกฎหมาย หากเกิดยามจำเป็น ยามคับขันต้องดูแลประชาชนในช่วงของภาวะวิกฤตขาดแคลนขึ้นมา เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะไปถึงไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสที่จะเกิดการขาดแคลนมีความเสี่ยงสูงแค่ไหน นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า คงไม่สูง เพราะเท่าที่ฟังจากการรายงานในที่ประชุมก็มีการพร้อมความพร้อมพอสมควร เมื่อวาน (4 ก.ค.65) จึงเป็นการรับฟังแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อประสานระหว่างหน่วยงานหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้ทำงานร่วมกันได้ทันที จึงเป็นซ้อมความเปลี่ยนแปลงไว้ 

"เรามีสำรองน้ำมันดิบ 60-70 วันโดยประมาณ ขณะที่แก๊ส LPG สำรองไว้ประมาณ 15-20 วัน ซึ่งในส่วนของแก๊ส LPG เรามีโรงแยกอยู่แล้ว ไม่ค่อยน่ากังวัล แต่น้ำมันเราต้องนำเข้าจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องยกระดับเป็น 60-70 วัน เพราะปกติเราสำรองน้ำมันดิบประมาณ 30 วัน ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือทุกฝ่าย"

เมื่อถามว่า แหล่งพลังงานที่จะหาเพิ่มเติมดูที่ใดไว้บ้าง นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ดูทั้งในประเทศและขอความร่วมมือจากผู้ผลิตให้เร่งดำเนินการให้มากขึ้นในยามที่เกิดมีข้อจำกัดในการขนส่งน้ำมันหรือขนส่งแก๊ส เพราะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีกับยูเครนดูจะยืดเยื้อ และมีแนวโน้มไม่จบสิ้นโดยเร็ววัน

เมื่อถามว่า เรื่องไฟฟ้าจำเป็นต้องนำแผนถ่านหินขึ้นมาพิจารณาอีกรอบหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า เรื่องถ่านหินได้มีการเลื่อนการหยุดการผลิตของโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะหน่วยที่ 8-11 ไปถึงปี 2568 เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีความพร้อมในทุกเรื่อง เป็นการเตรียมความพร้อม ไม่ได้บอกว่าจะเกิดวันนี้ พรุ่งนี้ ยึดเสถียรภาพสำคัญที่สุด  

เมื่อถามย้ำว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่จะนำมาพิจารณาอีกรอบหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า คงไม่ คงเป็นเรื่องโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การขอความร่วมมือกับ 6 โรงกลั่น เพื่อนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะพอมีความหวังอยู่ใช่หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ยังมีความหวัง เร็ว ๆ นี้ ไม่น่าจะนาน
เมื่อถามย้ำว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าการเจรจากับผู้ประกอบการโรงกลั่นจะได้ข้อสรุปหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ต้องเร็วที่สุด