รถตู้รับ - ส่งนักเรียนสุดอั้น! ขยับราคา 200 บาท/คน

 ผู้ประกอบการขับรถตู้รับส่งนักเรียนตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขต อ.เมืองชัยภูมิ ที่ในแต่ละวันรับส่งเด็กนักเรียนในหมู่บ้านต่างๆ ทั่วจังหวัด มาส่งเรียนหนังสือในโรงเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ไปจนถึงมัธยมศึกษา หรืออาชีวศึกษา หลังจากนั้นคนขับรถหรือเจ้าของรถแต่ละคัน จะนำรถตู้ไปจอดพักรถไว้ตามพุ่มไม้ ตามข้างสวนสาธารณะต่างๆ ก่อนที่ตอนเย็นหลังโรงเรียนเลิก จะนำรถตู้ออกไปรับเด็กนักเรียนกลับบ้าน ในช่วงกลางวันรถตู้แต่ละคันจะไม่ได้กลับไปบ้านก่อนเพราะสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องวิ่งรถเปล่ากลับไปมาโดยเปล่าประโยชน์ และมีต้นทุนต้องเสียค่าน้ำมันแพงที่สูงขึ้น

จากการสอบถามคนขับรถตู้รับส่งเด็กนักเรียน และเจ้าของรถผู้ประกอบการรถตู้รับส่งนักเรียน 2 คน (ขอสงวนนาม) ที่มาส่งนักเรียนแล้วนำรถตู้ไปจอดรอรับนักเรียนกลับบ้านด้านโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ เล่าให้ฟังว่า ทั้ง 2 คน ได้ขับรถตู้มานานแล้วกว่า 10 ปี โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ 800 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทางจากหมู่บ้านของนักเรียนมาถึงโรงเรียน จะใกล้หรือไกล ราคาก็จะบวกขึ้นตามระยะทาง ซึ่งราคานี้ไม่เคยปรับขึ้นราคามานานแล้วกว่า 5 ปี จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 25 บาท จนมาถึงปัจจุบันราคาน้ำมันปรับขึ้นเป็น 34.94 บาทต่อลิตร ทางกลุ่มรถตู้รับส่งนักเรียนก็ยังไม่ขึ้นราคา

  แต่ด้วยราคาน้ำมันที่ยังแพงปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่องขณะนี้ และมีแนวโน้มจะขึ้นราคาต่อไปอีกเรื่อยๆ ผู้ประกอบการขับรถตู้รับส่งนักเรียนตามหมู่บ้านต่างๆ ไม่สามารถแบกภาระต่อไปได้อีกแล้ว ซึ่งราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสกับรายรับรายจ่ายในปัจจุบัน ขณะนี้ผู้ประกอบการขับรถรับส่งเด็กนักเรียนต้องแบกรับภาระน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มๆ แบกรับภาระไม่ไหวแน่ๆ จำเป็นที่เดือนหน้า ต้องเดือนก.ค.นี้ จะต้องขอแจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบว่าจำเป็นจะต้องปรับขึ้นราคากับทางผู้ปกครองของนักเรียนอีกคนละ 200 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นี้เป็นต้นไป และขอให้เข้าใจผู้ประกอบการรถตู้รับส่งนักเรียนในครั้งนี้ด้วย เพราะไหนจะต้องแบกภาระค่าน้ำมันแล้วยังต้องจ่ายค่างวดรถในแต่ละเดือน ทั้งค่าครองชีพที่ราคาสินค้าก็สูงขึ้นทุกอย่างอีกด้วย ขอผู้ปกครองนักเรียนเห็นใจกับพวกตนด้วยจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาในครั้งนี้จริงๆ 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์