JTS ระเบิด | ออฟเรคคอร์ด

JTS ระเบิด | ออฟเรคคอร์ด

ราคาหุ้น JTS ขาขึ้นค่อยๆไต่จากหลักบาทมาสู้หลักร้อย แต่พอขาลง อาการลิฟฟ์ขาด แทบจะเทขายกันทุกราคา

๐๐๐ JTS ระเบิด

        “พอร์ตหุ้น-พอร์ตคริปโทเคอร์เรนซี่”  ระเบิดลงกันเป็นแถวในช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาร่วงหลุดแนวรับสำคัญและยังลงต่อ

    ยิ่งตลาดคริปโทฯ เจอหนักเพราะขึ้น – ลง ทีเป็น 100 % ถือว่าเป็นเรื่องปกติของตลาดที่เสี่ยงสูงและไม่มีปัจจัยรองรับ 

      หลังจากนักลงทุนพอร์ตแตกไปตามระเบียบก็ถึงคราว “หุ้นเจ้าของเหมืองบิทคอยน์ “ เจอเป็นคิวถัดมา ราคาลงลึกแบบทิ้งดิ่ง

    JTS เจ้าพ่อของวงการที่พาหุ้นในกลุ่มขึ้นมาแบบเหนือความคาดหมาย เจ้าของฉายา 1 ใน หุ้น 10 เด้ง เจอแรงขายถล่มติดฟอลล์ 29.97 % ทำราคาต่ำสุด 104 บาท ในรอบเกือบ 2 ปี  ท่ามกลางธุรกิจเหมืองดันไม่ไหวในช่วงนี้ทำให้ต้องมีการปรับตัวไปแล้วหลายเจ้า

       ส่วนใครไหวตัวทันก็ต้อง “มูฟ” เลี่ยงแบบให้เจ็บตัวน้อยลงด้วยการออกตัว “หยุดขุดเหมืองชั่วคราว” และเอาเงินไปช้อน "ซื้อบิทคอนย์" ร่วงหนักแทน 

       ประมาณว่า แก้เกี้ยว ที่เดาได้ไม่ยากว่าไตรมาส 2 -3 แต่ละรายตัวเลขออกมาจะอ่วมแค่ไหน !!!

 

๐๐๐

หุ้นไทยยังเต็มไปด้วยความผันผวน ถูกขายตลอดภาคเช้า ก่อนที่จะค่อยๆ มีแรงซื้อกลับมาในช่วงท้ายตลาด โดยราคาน้ำมันที่ย่อตัวลง กดดันหุ้นพลังงานโดยเฉพาะกลุ่มต้นน้ำ ส่วนกลุ่มโรงกลั่นวันนี้ (21 มิ.ย.) ต้องรอดูความชัดเจนจาก ครม. ในการขอความร่วมมือนำส่งกำไรเข้ากองทุนน้ำมัน

แต่สุดท้ายดัชนีฯ พลิกกลับมาลบเล็กๆ ปิดการซื้อขายที่ 1,559.21 จุด ลดลง 0.18 จุด หรือ 0.01% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,563.97 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,549.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,962.88 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 2,632.24 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯขาย 40.20 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,872.03 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อ 800.40 ล้านบาท

๐๐๐

“กลุ่มสนามบินและสายการบิน” เทคออฟอีกครั้ง หลัง ศบค. ไฟเขียวยกเลิก “ไทยแลนด์พาส” นักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่ม 1 ก.ค. นี้ หนุนการท่องเที่ยวครึ่งปีหลังคึกคักขึ้น ขณะที่ตลากหลัก “จีน” ผ่อนคลายมาตรการเดินทางมากขึ้น ล่าสุด ให้โควต้าสายการบินสัญชาติไทย เปิดบินเส้นทาง “ไทย-จีน” ได้ 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์

โดยบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กลับมาทดสอบแนวต้านสำคัญ 70 บาท ปิดที่จุดสูงสุดของวัน 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.21% หลังจำนวนผู้โดยสารเริ่มคึกคัก ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่สุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีผู้โดยสารมากกว่า 1 แสนคน/วัน หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

ส่วน บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ปิด 2.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 5.19% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ปิด 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.85% โดยมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวขายสนามบินสมุยเข้ากองรีทในครึ่งปีหลัง

๐๐๐

“หุ้นยางมะตอย” บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เด้งแรง 6.29% ปิด 16.90 บาท หลังราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับฐานในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับ “หุ้นโรงไฟฟ้า” รับอานิสงส์จากน้ำมันที่ย่อตัวลง และการปรับขึ้นค่า Ft ช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. นี้

รอบนี้นำทีมโดยบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) บวก 3.65% ปิด 35.50 บาท ส่วน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) บวก 2.33% ปิด 66 บาท ด้านพี่ใหญ่ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บวก 0.54% ปิด 46.75 บาท

๐๐๐

ด้านบมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) ที่ผ่านมาราคา Laggard เพื่อนๆ ในกลุ่ม ทำให้ช่วงนี้นักลงทุนเริ่มสลับตัวเล่น เลยดันราคาวิ่งคึกคัก ปิด 7.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 6.34% ซึ่งทางผู้บริหารเคยเปรยไว้ว่าขณะนี้อัตราการเข้าพักฟื้นตัวต่อเนื่อง และจะยิ่งคึกคักขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง หนุนปีนี้ลุ้นพลิกกลับมามีกำไร

๐๐๐

ปิดท้ายด้วยบมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) อาการยังร่อแร่ ถูกเทขายมา 7 วันติด ล่าสุดราคาร่วงติดฟลอร์ ปิด 104 บาท หลังเริ่มมีผลเข้าคำนวนในดัชนี FTSE Large Cap