ซีอีโอ'เซลเซียส' ไม่การันตีวันเปิดใช้ระบบถอนเงิน หลังชะงักนาน 3 วัน

ซีอีโอ'เซลเซียส' ไม่การันตีวันเปิดใช้ระบบถอนเงิน หลังชะงักนาน 3 วัน

อเล็กซ์ มาชินสกี้ ซีอีโอ'เซลเซียส' เคลื่อนไหวผ่านทวิตเตอร์อีกครั้ง เพื่องแจ้งนักลงทุนว่าบริษัทยังทำงานตามปกติและไม่ได้หยุดทำงาน แต่ไม่พูดถึงยะยะเวลาที่ระบบจะกลับมาทำธุรกรรมได้ปกติ หลังชะงักนาน 3 วัน

 

เว็บไซต์ decrypt.co รายงานว่า หลังจากที่ ‘เซลเซียส’ บริษัทสินเชื่อคริปโทเคอรร์เรนซี่ ประกาศหยุดให้บริการถอนเงินตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย.65 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 3 วันแล้ว เรื่องต่าง ๆ ก็ไร้วี่แววการเคลื่อนไหวใด ๆ 

จนกระทั่ง อเล็กซ์ มาชินสกี้ ผู้บริหารของเซลเซียสได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ที่มีชื่อว่า @Mashinsky เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนในชุมชนเซลเซียสว่าบริษัทยังคงทำงานอยู่ และจะไม่หยุดการทำงาน พร้อมทั้งขอให้ลูกค้าอดทนต่อไป แต่ก็ยังไม่ได้พูดถึงระยะเวลาหรือวันที่แน่นอนในการกลับมาทำงานอีกครั้งของระบบการถอนเงิน

ซีอีโอ\'เซลเซียส\' ไม่การันตีวันเปิดใช้ระบบถอนเงิน หลังชะงักนาน 3 วัน

Celsisus หยุดการถอนเงินชั่วคราวในวันอาทิตย์เพื่อ “รักษาสภาพคล่อง” และ “รักษาและปกป้องทรัพย์สิน” หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลเฉพาะที่นำเสนอบนแพลตฟอร์ม Lido's Staked Ether (stETH) เริ่มมีความผิดปกติ

stETH คือ Ethereum ที่ถูกล็อกบน Ethereum 2.0 beacon chain (บล็อกเชนที่จะรวมเข้ากับ Ethereum mainnet) ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตรึงราคากับ ETH ด้วยเหตุนี้ stETH จึงถูกใช้เป็นหลักประกันบนแพลตฟอร์ม เช่น เซลเซียส สำหรับการยืม ETH

แต่เนื่องจากตลาดคริปโทอยู่ในขาลง stETH สูญเสียการตรึงราคากับ ETH ที่มีความผันผวนอย่างมาก ที่ให้ลูกค้าที่ต้องการถอน ETH จากเซลเซียส มีกังวลเกี่ยวกับการย้าย depegging ล่าสุด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวบังคับให้เซลเซียสต้องขาย stETH จำนวน 472 ล้านดอลลาร์ นั่นทำให้ราคาของ stETH ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และเกือบจะทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องจนไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมภาระผูกพันของ ETH ที่มีต่อลูกค้า

ยังไม่ชัดเจนว่าเซลเซียสจะแก้ปัญหาอย่างไรหาก stETH ยังคง depegged จาก ETH (ในขณะที่เขียน stETH มีราคาซื้อขายอยู่ที่ .93 ETH) 

ทั้งนี้บริษัทเซลเซียสรายงานว่าได้ว่าจ้างทนายความเพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างบริษัท หากไม่พบแหล่งเงินทุนอื่น ๆ

เมื่อวันอาทิตย์ ข่าวการหยุดการถอนของ เซลเซียส ส่งผลให้โทเคนดั้งเดิมของเซลเซียส  CEL ร่วงลง 70% ในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ซึ่งสถานการณ์ดูเหมือนจะทำให้ผู้นำเซลเซียสต้องประหลาดใจ และยังไม่ชัดเจนว่าระบบจะแก้ไขเมื่อใดและเมื่อใดจะถูกกลับมาใช้งานตามปกติ