มหากิจศิริชี้จังหวะดีเดินหน้าลงทุนผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นลุยธุรกิจอสังหาฯ

มหากิจศิริชี้จังหวะดีเดินหน้าลงทุนผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นลุยธุรกิจอสังหาฯ

“มหากิจศิริ” หนึ่งในตระกูลมหาเศรษฐีเมืองไทยไม่ได้มีเพียง “เนสกาแฟ”แต่ยังมีธุรกิจในกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ โลจิสติกส์ อาหารและเครื่องดื่ม ในพอร์ตของTTA ซึ่งเป็นinvestment holding companyล่าสุดหันมาโฟกัสมายังธุรกิอสังหาริมทรัพย์! ถือเป็น good asset

อุษณา มหากิจศิริ ทายาทคนสุดท้องของ “ประยุทธ มหากิจศิริ” หัวเรือใหญ่ดูแลธุรกิจอสังหาฯ ในฐานะรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA กล่าวว่า บริษัทมุ่งขยายโอกาสการลงทุนไปยังธุรกิจที่หลากหลาย นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจชิปปิ้ง น้ำมันและก๊าซ อาหาร และธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วยการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพและความยั่งยืน

“อสังหาฯ เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องในอนาคต จากสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย ที่เริ่มส่งสัญญาณบวก รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย นโยบายกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนเอื้อต่อการซื้อขาย จากมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองบ้านใหม่ บ้านมือสอง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างทยอยเปิดตัวโครงการใหม่”

โดยร่วมกับ คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (KRD) และ โทเร คอนสตรัคชั่น (TCC) บริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ที่ร่วมทุน และจัดตั้ง บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในการพัฒนาอสังหาฯ ระดับลักชัวรี โดย TTA ถือหุ้น 60% KRD ถือหุ้น 30% และ TCC ถือหุ้น 10% ตามลำดับ 

สตาร์ทโครงการแรก "125 สาทร” คอนโดลักชัวรี มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท จำนวน 755 ยูนิต ปักหมุดแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนสาทร ล่าสุดได้รับการอนุมัติ EIA แล้ว โดยจะดำเนินการก่อสร้างช่วงครึ่งปีหลัง แล้วเสร็จปี 2569  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 250,000 บาท สนนราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาทต่อยูนิต (28.55 ตร.ม.) เพนท์เฮาส์ ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท! ยูนิตใหญ่สุดอยู่ที่ 282.85 ตร.ม.

เคนอิจิ ฟูจิโนะ ประธานกรรมการ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (KRD) กล่าวว่า บริษัทมุ่งขยายการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเอเซียตะออกเฉียงใต้ หลังจากที่ขยายธุรกิจไปยังสหรัฐและออสเตรเลีย โดย “ไทย” เป็นประเทศที่ 3 ที่เข้ามาลงทุนคอนโดและบ้านจัดสรร ต่อจากเวียดนามและอินโดนีเซีย

“ไทย เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับการลงทุนในต่างประเทศของ KRD ล่าสุด ได้จัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเม.ย. เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการร่วมกับTTA และ TCC ต่อจากนี้”

โครงการ 125 สาทร เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคย

ภัทร์กร วงศ์สวรรค์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวเสริมว่า โครงการ 125 สาทร เป็นคอนโดระดับลักชัวรี บนทำเลใจกลางสาทร ที่มีดีมานด์สูง ขณะที่ซัพพลายค่อนข้างจำกัด และราคาที่ดินปรับสูงขึ้นทุกปี 

ล่าสุดที่ราคาดินย่านสาทรพุ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯ ด้วยราคา 2.5 ล้านบาท ต่อตารางวา!! และมีแนวโน้มเพิ่มเฉลี่ยปีละ 2-3% เป็นขุมทรัพย์สำหรับคนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าได้ผลตอบแทน 4-5% ขณะที่ ญี่ปุ่นและจีนผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่าน้อยกว่าไทย และยังต้องเสียภาษีบ้านหลังแรกอีกด้วย

สาทร เป็นทำเลศักยภาพ แวดล้อมด้วยคอมมูนิตี้ชั้นนำ สิ่งอำนวยความสะดวก เมกะโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 3-5 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการวันแบงค็อก รวมทั้งแหล่งรวมสำนักงานเกรดเอที่ดึงคนเข้ามาทำงานในย่านนี้ (สีลม-สาทร) มากขึ้น 260,000 คนต่อวัน ไม่นับรวมคนที่เข้าออกย่านนี้อีก 80,000 คนต่อวันทำให้ย่านนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงเพิ่มขึ้น

“ลูกค้าหลักที่เข้ามาช่วงแรกกลุ่มคนญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งมาจากพันธมิตร 20-30% ถัดมาเป็นกลุ่มยุโรป และจีน ฮ่องกง หลังจากมีการปลดล็อกการเดินทาง”

อุษณา ระบุด้วยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลังดีกว่าที่คาดการณ์ กำลังซื้อในประเทศยังคงแข็งแรงโดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรี คนมีเงินเย็น พร้อมที่จะลงทุนซื้ออสังหาฯ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีโอกาสที่จะทำกำไรได้ 

ในส่วนธุรกิจ TTA ได้กระจายความเสี่ยงในการลงทุนธุรกิจหลากหลายไปทั่วโลก โดยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมาโตสวนกระแสเศรษฐกิจ

สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับทั้งอารมณ์ซื้อของผู้คน นโยบายเปิดประเทศ คนเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอย ใช้ชีวิตตามปกติ มั่นใจว่า ตลาดดีขึ้นแน่นอน 

“อสังหาฯ เป็นธุรกิจที่มีความเติบโตยั่งยืน จึงนำมาอยู่ใน TTA เพราะนโยบายของบริษัทมองว่า ช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุน ซึ่งหากดูมูลค่าการลงทุนเมื่อเทียบกับบริษัทไม่ได้เป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับสัดส่วนรายได้”

ประกอบกับพาร์ทเนอร์ KRD มีนโยบายที่จะทำธุรกิจกับ TTA อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ค. จะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 2 โครงการ ย่านศรีนครินทร์ และ กรุงเทพกรีฑา