ผันผวน รอปัจจัยใหม่ (วันที่ 9 มิถุนายน 2565)

ผันผวน รอปัจจัยใหม่ (วันที่ 9 มิถุนายน 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดบวก 5 จุด ดัชนีมี Technical Rebound หลังจากที่ปรับลงตลอด 4 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดัชนีปรับขึ้นในกรอบจำกัดและมูลค่าการซื้อขายยังเบาบางเพียง 5.7 หมื่นล้านบาท

เนื่องจากนักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของ ECB Meeting และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET พักตัวกรอบ 1,630 - 1,645 จุด แม้แรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นหลังสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลงและจีนผ่อนคลายการล็อกดาวน์ซึ่งเป็นบวกต่อดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวล FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย รวมถึง Fund flow ต่างชาติ Net sell 5 วันต่อเนื่องรวม 6.5 พันลบ. จะกดดันต่อ Sentiment การลงทุนในช่วงนี้

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

           PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง

           AOT MINT CENTEL BDMS BH CPALL CPN  AMATA  อานิสงส์การเปิดประเทศ

           TU ASIAN GFPT KCE HANA กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

PTTEP (ปิด 170 ซื้อ/เป้า 185) ราคาน้ำมันดิบพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน เป็น Sentiment บวกโดยตรงกับ PTTEP และคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นจากดีมานด์ที่ฟื้นตัวหลังเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งคลายล็อกดาวน์ขณะที่ซัพพลายทั่วโลกยังตึงตัว

TOP (ปิด 60.75 ซื้อ/เป้า 63) คาดความต้องการใช้น้ำมันดิบและสำเร็จรูปในภูมิภาคเพิ่มขึ้นหลังจากจีนคลายล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. และเริ่มคลายล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่น

 

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

       EPG (ปิด 10.1 ซื้อ/เป้า 16), HTC (ปิด 30 ซื้อ/เป้า 38)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+/-) กนง.เสียงแตกมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิม: คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% โดยมี 3 เสียงเห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%  นอกจากนี้คณะกรรมการยังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ขึ้นเป็น 3.3% จากเดิม 3.2% แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าลงเล็กน้อยจาก 4.4% เป็น 4.2%

(+) กลุ่มน้ำมัน - น้ำมันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในสหรัฐ: ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นอีก 2.70 ดอลลาร์ (+2.3%) ปิดที่ 122.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 8 แสนบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงความต้องการน้ำมันที่แข็งแกร่งมากทั้งๆที่ปัจจุบันราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั๊มในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 4.955  ดอลลาร์/แกลลอน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

(+/-) วันนี้ ECB Meeting คาดยกเลิก QE และ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%: เราคาดว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และยกเลิกมาตรการ QE เพื่อควบคุมเงินเฟ้อหลังจากล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 8.1% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดรับรู้กับปัจจัยนี้ไปแล้วจึงไม่น่ากังวล