“กลุ่มสิงห์” ตีปีกรับธุรกิจโรงแรมฟื้น หนุนครึ่งหลังพลิกกำไร

“กลุ่มสิงห์” ตีปีกรับธุรกิจโรงแรมฟื้น หนุนครึ่งหลังพลิกกำไร

“สิงห์เอสเตท-เอสโฮเทล” คาดครึ่งปีหลัง65 พลิกมีกำไร หลัง “ธุรกิจโรงแรม” ฟื้นตัวโดดเด่น เหตุ อััตราการเข้าพักเติบโตต่อเนื่อง หลังเปิดประเทศหนุนนักท่องเที่ยวพุ่ง

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า หลังภาครัฐมีมาตรการเปิดประเทศชัดเจนเมื่อ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มีโอกาสพลิกมีกำไรได้

ทั้งนี้มี ปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงแรมภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ฟื้นตัว  เช่น โรงแรมในมัลดีฟส์ และอังกฤษได้มีการฟื้นตัวเป็นกลุ่มแรกๆ ซึ่งเห็นได้จากอัตราการเข้าพัก (OCC) ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 50-60% ส่วนโรงแรมในประเทศไทย มอร์เชียส และฟูจิ ได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยครึ่งหลังจะมีการโอนโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส เพิ่มอีก 3-4 แปลง การเริ่มทยอยโอนโครงการคอนโดมิเนียม ESSE สุขุมวิท 36 ปัจจุบันมียอดขาย 66% และไตรมาส 3/65 จะมีการขายอาคารสำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีกในโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (SPRIME) โดยอยู่ระหว่างการรอพิจารณาจาก ก.ล.ต. หลังขายเข้ากองรีทบริษัทจะมีการรับรู้กำไรพิเศษในครึ่งหลังเป็นหนึ่งปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานพลิกกำไร

นางสาวศมิษฐา ทินนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR กล่าวว่า คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้มีโอกาสกลับมาพลิกกำไร เนื่องจากความรุนแรงของการแพร่ระบาดโควิดลดลง ส่งผลบวกรัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐในหลายประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป

ทั้งนี้สอดคล้องทิศทางการฟื้นตัวอุตสาหกรรม และ เปิดรับนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ซึ่งอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือนเม.ย. 2565 เฉลี่ยสูง 61% โดยเฉพาะในโรงแรมในไทย , มัลดีฟส์ ส่วนสาธารณรัฐ หมู่เกาะฟิจิสาธารณรัฐมอริเชียส กลุ่มสหราชอาณาจักรยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

ดังนั้น ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 8,500 ล้านบาท ถือเป็นการโตอย่างมีนัยสำคัญ จากปี2564 มีรายได้ 4,500 ล้านบาท อีกทั้งยังมีอัพไซด์จากการเปิดประเทศภาคท่องเที่ยวกับมาหนุนเศรษฐกิจฟื้นและนักท่องเที่ยวจีนกลับมา หลังทางการผ่อนคลายคุมโควิด เติบโตเป็น 3 เท่า ภายในปี2569 มาจากการทำควบรวมกิจการ (M&A) และขยายสู่ธุรกิจใหม่อย่างรับจ้างบริหารโรงแรม ซึ่งทำ M&A ใช้งบลงทุน 4,500 ล้านบาท