SHR พร้อมที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 2Q65F

SHR พร้อมที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 2Q65F

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ SHR จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 2Q65F โดย occupancy รวมของธุรกิจโรงแรมปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 61% ในเดือนเมษายน 2565 จาก 46% ใน 1Q65

สำหรับโรงแรมในอังกฤษ occupancy ฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจเป็น 60% ในเดือนเมษายน 2565 จาก 46% ใน 1Q65 จากเข้าสู่ช่วง high season และอุปสงค์การเดินทางระหว่างประเทศข้างเคียงที่เพิ่มขึ้น ขณะที่โรงแรมที่มัลดีฟส์ยังมี occupancy ทรงตัวในระดับสูงที่ 77% ในเดือนเมษายน 2565 (เพิ่มขึ้นจาก 74% ใน 1Q65) แต่มีแนวโน้วแผ่วลงเล็กน้อยในช่วงที่เหลือของไตรมาสจากเข้าสู่หน้ามรสุม

 

สำหรับโรงแรมในฟิจิ และมอริเชียส occupancy ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ย 60% ในเดือนเมษายน 2565 (จากประมาณ 30% ใน 1Q65) โดยฟิจิเข้าสู่ช่วง high season แล้วใน 2Q65F ในขณะที่มอริเชียสได้แรงส่งด้านบวกจากนักท่องเที่ยวยุโรป ขณะที่โรงแรมในประเทศไทย occupancy ดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 59% ในเดือนเมษายน 2565 จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากโรงแรมของ SHR ในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ภูเก็ต และเกาะพีพี ดังนั้นจึงได้อานิสงส์โดยตรงจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

 

 

ภาวะเงินเฟ้อจากด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก

เรามองผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อต้นทุนต่อธุรกิจโรงแรมยังไม่น่ากังวลแบบมีนัยสำคัญ เนื่องจากต้นทุนพนักงานและปัญหาการขาดแคลนแรงงานยังมีแนวโน้มที่ควบคุมได้ ส่วนกรณีที่ต้นทุนค่าสาธารณูปโภคบางส่วนของโรงแรมในอังกฤษเพิ่มขึ้น บริษัทได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไปจนถึงสิ้นปีนี้แล้ว

 

Valuation & action

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของโรงแรมของ SHR ใน 2Q65F จะ outperform หุ้นอื่นในกลุ่ม เนื่องจากพอร์ตโรงแรมของบริษัทมีการกระจายตัวอย่างสมดุล และโรงแรมของบริษัทก็อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่สามารถฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ เรายังคาดว่าจะมีการ re-rate ราคาเป้าหมายของ SHR เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 4.80 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 15.0x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.25 S.D. ทั้งนี้ เราได้หัก discount ราคาเป้าหมายปี 2565F กลับมาหนึ่งปีโดยใช้ WACC ที่ 9.5%

 

Risks

COVID-19 ระบาดนานกว่าที่คาดไว้