คอนโดไทยเนื้อหอมเศรษฐีกัมพูชา-อินเดียหอบเงินซื้อ

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติไตรมาส 1 ปี 2565 ว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดให้คนต่างชาติ จำนวน 2,107 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 10,262 ล้านบาท

โดย 10 อันดับแรก พบว่า ผู้ซื้อสัญชาติจีนมีการโอนกรรสิทธิ์สูงสุดทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 949 หน่วย มูลค่า 4,570 ล้านบาท รองลงมารัสเซีย จำนวน 134 หน่วย มูลค่า 435 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา จำนวน 114 หน่วย มูลค่า 344 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 91 หน่วย มูลค่า 325 ล้านบาท เยอรมัน 81 หน่วย มูลค่า 255 ล้านบาท ฝรั่งเศส 77 หน่วย มูลค่า 390 ล้านบาท ไต้หวัน 53 หน่วย มูลค่า 391 ล้านบาท อินเดีย 51 หน่วย มูลค่า 271 ล้านบาท แคนาดา 40 หน่วย และออสเตรเลีย 34 หน่วย มูลค่า 318 ล้านบาท

 

สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ อาคารชุดคนต่างชาติ ไตรมาสแรกปี2565 ทั่วประเทศ 10 อันดับแรกของหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดชาวต่างชาติ  สัญชาติจีนมีสัดส่วนอันดับหนึ่งอยู่ที่45% ซึ่งยังมีจำนวนน้อยอยู่ ส่วนตัวมูลค่ายังคงเป็นคนจีนเช่นเดียวกัน ถัดมาเป็นสัญชาติ รัสเซีย  อันดับสามเป็นสหรัฐอเมริกา ตามดัวยอังกฤษและเยอรมัน

“แต่สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 10 อันดับแรก อันดับที่สาม"กัมพูชา" เป็นครั้งแรก ที่มีเม็ดเงินที่ซื้อคอนโดสูงเป็นอันดับสามประมาณ4%ของมูลค่าการโอนทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 401ล้านบาท   และอีกประเทศที่มีความโดดเด่นขึ้นมาทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าคือ "อินเดีย"  ซึ่งในรอบ4ปีที่ผ่านมาอินเดียไม่เคยติดอันดับ1 ใน10    แต่เพิ่มขยับขึ้นมาติดอันดับ ในไตรมาสแรกปี2565  ขณะที่ออสเตรเลีย เยอรมันติดอันดับ1 ใน10 มาตลอด”

นายวิชัยกล่าวต่อว่า สัญชาติ 5 อันดับแรก ที่ซื้อและโอนคอนโดมิเนียมแต่ละพื้นที่  ได้แก่ 1.สัญชาติจีน มีที่กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ ปทุมธานี นนทบุรี กระบี่ เพชรบุรี 2.สัญชาติรัสเซีย ที่ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง 3.สัญชาติสหรัฐอเมริกาที่ ชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ อุบลราชธานี เพชรบุรี ปทุมธานี นครศรีธรรมราช 4.สัญชาติสหราชอาณาจักรที่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุทรปราการ จันทบุรี นนทบุรี 5.สัญชาติเยอรมันที่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง เชียงใหม่ สมุทรปราการ เพชรบุรี

แต่อย่างไรกก็ตามภาพรวมยอดโอนกรรมสิทธิ์ของต่างชาติใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ยังคง"ติดลบ"เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แต่ก็ใกล้เคียงกับช่วงเกิดโควิด รอดูว่าเปิดประเทศแล้วนโยบายต่างที่จะผ่อนคลายเพิ่ม คาดว่าจะทำให้กำลังซื้อต่างชาติเริ่มกลับมามากขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลูกค้าจีนถ้ายังไม่เปิดประเทศ และสงครามยังยืดเยื้อ จะทำให้ตลาดลูกค้าต่างชาติมีปัญหาและมีข้อจำกัดอยู่ ยกเว้นครึ่งปีหลังนี้จะมีสถานการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวพึ่งพากำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก