ผู้ผลิตไบโอดีเซล โอด ลดเหลือบี5 เสียหายวันละ 60 ล้าน ชี้ลดอีกถึงขั้นวิกฤต

ผู้ผลิตไบโอดีเซล โอด ลดเหลือบี5 เสียหายวันละ 60 ล้าน ชี้ลดอีกถึงขั้นวิกฤต

สมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซล ระบุ การลดสัดส่วนสร้างความไม่มั่นใจการลงทุนในนโยบายรัฐบาล โอด จากการปรับลดเหลือบี5 สูตรเดียว กระทบปริมาณการใช้ไบโอดีเซลลดลง 35-40% มูลค่าวันละ 50-60 ล้าน หากลดอีก เจอวิกฤตภาพรวม

นายศาณินทร์ ตริยานนท์ นายกสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิด รวมถึงไบโอดีเซลนั้นปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามราคาพืชน้ำมันในตลาดโลกด้วยหลายเหตุผล เช่น วิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทางสมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทยเข้าใจว่ามีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยคิดว่าการปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลลงจะช่วยให้ราคาจำหน่ายดีเซลลดลงได้มากถึงลิตรละ 2-3 บาท ต่อการปรับสัดส่วนการผสมลง 1% รวมถึงราคาสินค้าต่างๆ ที่ผลิตจากน้ำมันปาล์มก็อาจจะปรับลดลงด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลลงจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายดีเซลลดลงเพียงลิตรละ 0.1-0.15 บาท ต่อการปรับสัดส่วนการผสมลง 1% เท่านั้น ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็อาจจะไม่ได้ลดลงเลย เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศนั้นผูกติดกับราคาในตลาดต่างประเทศเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมไบโอดีเซล เกิดขึ้นได้จากการสนับสนุนโดยนโยบายภาครัฐเป็นสำคัญ ด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันฟอสซิลจากต่างประเทศ สร้างความมั่นคงทางพลังงาน รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกรปาล์มน้ำมัน ช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกิน รักษาเสถียรภาพราคาวัตถุดิบน้ำมันปาล์มไม่ให้ตกต่ำจนเกินไป

ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก โดยกระทรวงพลังงาน กำหนดเป้าหมายการใช้ไบโอดีเซลไว้ที่ 8 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งในปี 2563 ภาครัฐได้ปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล โดยประกาศให้ไบโอดีเซลบี10 เป็นเกรดพื้นฐาน ส่งผลให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

“ในช่วงปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ภาครัฐมีการปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลจากเดิมมี 3 เกรด คือบี 10 (เกรดพื้นฐาน) บี7 และบี 20 (เกรดทางเลือก) ลดลงเหลือบี 7 และในช่วงนี้เหลือเพียงบี 5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตเป็นอย่างมาก โดยนโยบายดังกล่าวทำให้ปริมาณการใช้ไบโอดีเซลลดลงถึง 35-40% คิดเป็นมูลค่าวันละ 50-60 ล้านบาท เราเข้าใจถึงเหตุผลในการลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในช่วงที่ผ่านมา แต่หากลดสัดส่วนลงมากกว่าที่เป็นอยู่ อุตสาหกรรมไบโอดีเซลจะได้รับผลกระทบถึงขั้นวิกฤต”

อย่างไรก็ตาม ไบโอดีเซลเป็นอีกอุตสาหกรรมที่ภาครัฐสนับสนุนให้เอกชนลงทุนตามนโยบายของประเทศ สมาคมฯ เห็นว่าการกำกับดูแลให้อุตสาหกรรมสามารถอยู่ได้ตามสมควรเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นคงเป็นการยากที่ภาครัฐจะขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่อไปในอนาคต เนื่องจากเอกชนขาดความมั่นใจว่านโยบายสนับสนุนการลงทุนต่างๆ ที่ออกมานั้นจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมนี้ได้สร้างมูลค่ากว่าปีละ 30,000 – 70,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันในประเทศไทยมีกำลังการผลิตไบโอดีเซลรวมประมาณ 10 ล้านลิตรต่อวัน โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียง 30 กว่า% ซึ่งในแง่อุตสาหกรรมพิจารณาว่าเป็นการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำมากจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อยู่แล้ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ อุตสาหรรมไบโอดีเซลซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการดูดซับผลผลิตปาล์มน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาตกต่ำให้เกษตรกรจะอยู่รอดได้อย่างไร