กนอ. เล็งยกระดับท่าเรือมาบตาพุด ด้านมาตรการความปลอดภัย-แก้มลพิษทางน้ำ

กนอ. เล็งยกระดับท่าเรือมาบตาพุด ด้านมาตรการความปลอดภัย-แก้มลพิษทางน้ำ

กนอ.เปิดปฏิบัติการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด เพิ่มศักยภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล รวมถึงการตอบโต้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.กำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมครบวงจรระดับภูมิภาค ด้วยนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน มุ่งเน้นพัฒนาบริการสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจรตามความจำเป็น และความต้องการของผู้ประกอบการภายในนิคมฯ 

ซึ่งปัจจุบัน กนอ.มุ่งยกระดับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยมีการกำกับดูแลจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมให้อยู่ในมาตรฐานที่ไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยร้ายแรงส่งผลกระทบต่อสังคมชุมชน 

ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมการอนุรักษ์และรักษาสภาพแวดล้อมภายในบริเวณเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้สอดคล้องกับประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 134/2564 เรื่อง มาตรการความปลอดภัย การป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมัน เคมีภัณฑ์ และสารที่เป็นอันตรายประจำท่าเรือ  

ทั้งนี้ กนอ. โดยสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) ได้จัดหาผู้มีประสบการณ์และความชำนาญ เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการเก็บขยะ คราบน้ำมัน และดับเพลิงในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยว่าจ้าง บริษัท เอ. แอนด์ มารีน (ไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2569 เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 

ทั้งนี้ บริษัท ใช้เรือเก็บขยะ ขจัดคราบน้ำมัน และดับเพลิง จำนวน 2 ลำ ได้แก่ เรือรักษ์นที 01 และ เรือรักษ์นที 02 พร้อมอุปกรณ์สำหรับดำเนินโครงการ ซึ่งมีคุณลักษณะที่สำคัญประกอบด้วย

1. เรือรักษ์นที 01 และ เรือรักษ์นที 02 เป็นเรือเก็บขยะ ขจัดคราบน้ำมัน และดับเพลิง ทำความสะอาดพื้นผิวน้ำปฏิบัติงานในอ่าว ทะเลสาบ และลำคลอง เหมาะสมสำหรับท่าเรือต่างๆ มีคุณสมบัติพิเศษคือ มีระบบดูดขยะที่เป็นทั้งของเหลว หรือขยะที่ปนมากับของเหลวได้

2. เรือมีระบบสายพานลำเลียงตะกร้าที่กักเก็บขยะ ระบบขับเคลื่อนของเรือเป็นแบบใบจักร พร้อมด้วยระบบทุ่นล้อมคราบน้ำมัน และมีระบบไฮดรอลิกส์สนับสนุนการทำงานระบบต่างๆ ของเรือ เช่น ระบบเก็บขยะ ระบบควบคุมหางเสือ ระบบขจัดคราบน้ำมัน และระบบดับเพลิง เป็นต้น

3. ตัวเรือผลิตจากเหล็ก ใช้เครื่องยนต์ Inboard Marine Diesel ขนาด 260 แรงม้า ความยาวตลอดลำ 12.77 เมตร กว้าง 3.48 เมตร ติดตั้งเรดาร์เดินเรือ เครื่องหาตำบลที่เรือด้วยดาวเทียมและหยั่งความลึกน้ำพร้อมแผนที่ เครื่องรับส่งวิทยุสื่อสาร VHF Marine Band อุปกรณ์รายงานตนอัตโนมัติ (AIS) และเครื่องไซเรน  มีถังเก็บสารขจัดคราบน้ำมันขนาดไม่น้อยกว่า 50 ลิตร และถังเก็บน้ำมันปนเปื้อนขนาดไม่น้อยกว่า 10 ลูกบาศก์เมตร ติดตั้งปั๊มน้ำทะเลดับเพลิงแรงดันสูงพร้อมติดแท่นปืนฉีดน้ำดับเพลิงหมุนได้ 360 องศา พร้อมถังบรรจุโฟมดับเพลิงขนาด 500 ลิตร