คลังคาดโควิดยอดถือบัตรคนจนรอบใหม่เพิ่มเป็น20ล้านราย

คลังคาดโควิดยอดถือบัตรคนจนรอบใหม่เพิ่มเป็น20ล้านราย

คลังคาดผู้ถือบัตรคนจนรอบใหม่จะเพิ่มเป็น 20 ล้านราย จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 13 ล้านราย ระบุ โควิดเป็นเหตุให้คนจนเพิ่ม เตรียมเปิดลงทะเบียนเร็วๆนี้ เพื่อให้การใช้สิทธิรอบใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เข้าลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนในรอบใหม่ในเร็วๆนี้ เพื่อให้การใช้สิทธิในบัตรคนจนรอบใหม่เริ่มต้นได้ตามเวลาที่คาดการณ์ คือ วันที่ 1 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเปิดให้มีการลงทะเบียนรอบใหม่ เนื่องจาก ข้อมูลผู้ถือบัตรคนจนในปัจจุบันเป็นข้อมูลในปี 2559-61 โดยที่ผ่านมายังมีกลุ่มตกหล่นที่ไม่สามารถเข้าถึงโครงการฯประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ในวงกว้าง ทำให้ข้อมูลผู้ถือบัตรคนจนไม่สะท้อนข้อมูลผู้มีรายได้น้อยในปัจจุบัน

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนใหม่ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อย และมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของรัฐให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่า จะมีประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนร่วมโครงการประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งจะรวมถึงผู้ถือบัตรคนจนในปัจจุบันประมาณ 13 ล้านคนและผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่

แหล่งข่าวกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทะเบียนรอบนี้จำนวนกว่า 560 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจ้างเหมาบริการระบบลงทะเบียนและการยืนยันตัวตนกรณีการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการจำนวน 164 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน ได้แก่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย กรมบัญชีกลาง(คลังจังหวัด)กระทรวงมหาดไทย(ที่ว่าการอำเภอ)สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเมืองพัทยา รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 400 ล้านบาท

สำหรับคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนนั้น ได้มีการปรับปรุงจากเงื่อนไขเดิมที่พิจารณารายได้เป็นรายบุคคลเป็นรายครอบครัว โดยกำหนดรายได้ต่อหัวไม่เกิน 1 แสนบาท และยังกำหนดเงื่อนไขใหม่ที่ผู้ลงทะเบียนต้องไม่มีการถือครองบัตรแครดิต ไม่มีหนี้สินบ้านราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ ไม่มีหนี้สินยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาทด้วย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ และ เงินฝาก จะใช้เงื่อนไขที่ใกล้เคียงกับเงื่อนไขเดิม แต่จะพิจารณารวมทรัพย์สินของบุคคลในครอบครัวด้วย