เรือด่วนเจ้าพระยาเดินหน้าลงทุนเรือไฟฟ้า 30 ลำ

เรือด่วนเจ้าพระยาเดินหน้าลงทุนเรือไฟฟ้า 30 ลำ

IFC สนับสนุน “เรือด่วนเจ้าพระยา” ดันโครงการเรือไฟฟ้า ลดมลพิษในกรุงเทพ ปักธงจัดซื้อ 30 ลำ รองรับผู้โดยสาร 250 คน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด (เรือด่วนเจ้าพระยา) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) เป็นสถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (World Bank Group) ได้รับการสนับสนุนในการเพิ่มจำนวนยานยนต์ไฟฟ้า (E-Mobility) บนเส้นทางสัญจรทางน้ำหลักของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะช่วยให้ลดความแออัดของถนนและมลพิษทางอากาศ พร้อมกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศของประเทศ

โดยตามการประมาณการล่าสุดในปี 2564 ผู้โดยสารสูญเสียเวลาจำนวน 114 ชั่วโมงเพื่ออยู่ในการจราจรที่ติดขัด ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อการดำเนินธุรกิจและคุณภาพอากาศของเมืองหลวงที่มีประชากร 10 ล้านคน ด้วยการสนับสนุน IFC เรือด่วนเจ้าพระยาซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางน้ำชั้นนำในกรุงเทพฯ วางแผนที่จะทำให้การประกอบการเดินเรือของบริษัทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยการจัดซื้อเรือไฟฟ้า 30 ลำเพื่อใช้สำหรับเป็นเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ละลำสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 250 คน

อีกทั้งจะทยอยเลิกใช้เรือดีเซลไปพร้อมๆ กันภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดย  IFC และเรือด่วนเจ้าพระยา จะร่วมกันศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการเรือโดยสารไฟฟ้าให้สอดคล้องกับการลงทุนที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเลือกใช้เทคโนโลยีในการออกแบบและการเดินเรือโดยสารไฟฟ้าที่เหมาะสม และช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในการประกอบธุรกิจเรือโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยาให้เทียบเท่ามาตรฐานและแนวปฏิบัติระดับสากล

นางสุภาพรรณ พิชัยณรงค์สงคราม ประธานกรรมการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และกลุ่มบริษัทสุภัทรา กล่าวว่า ด้วยภารกิจของเราคือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ในการที่จะบรรลุเป้าหมายของเราและสนับสนุนนโยบายของภาครัฐนั้น เราได้ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งเพื่อศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของเรือไฟฟ้าสำหรับระบบขนส่งมวลชน ซึ่งขณะนี้ เรามีความพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต

“การทำงานร่วมกับ IFC ซึ่งเป็นสถาบันระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากมายในการช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดในประเทศกำลังพัฒนาหลายๆ แห่งรวมถึงประเทศไทยนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเราในการบรรลุโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมการเดินเรือและทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุมาตรฐานสากลได้”

อีกทั้งการให้บริการเดินเรือโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยามีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) และสถานีขนส่งมวลชนกรุงเทพ (MRT) ทำให้บริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งสาธารณะของกรุงเทพฯ โดยเรือด่วนเจ้าพระยามีประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับผู้โดยสารเฉลี่ย11ล้านคนต่อปี และการสนับสนุนของ IFC ในการพัฒนาการต่อเรือไฟฟ้าครั้งแรกของประเทศข้างต้น สอดคล้องกับความคิดริเริ่มของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศและเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593