หอการค้าจี้รัฐคลอด ‘คนละครึ่ง’ เฟส 5 กระตุ้นเศรษฐกิจ

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น  อังอุบลกุล ระบุ รัฐบาลควรเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป แม้ปัจจุบันประชาชนจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่าสถานการณ์ปกติ

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ รัฐบาลควรเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป แม้ปัจจุบันประชาชนจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่าสถานการณ์ปกติ  จึงควรเร่งกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโมเมนตัมทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น

จากการคำนวนเบื้องต้น พบว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 5 หากจ่ายให้คนละ 1,500 บาท รัฐบาลจะใช้งบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยคำนวณจากผู้มิสิทธิ 30 ล้านคน ซึ่งจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเงินเข้าระบบ 9 หมื่นล้านบาท ทำให้ตัวเลข GDP ดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65% ช่วยให้การเติบโตของ GDP ไทยในปีนี้เกิน 3% อย่างแน่นอน  

หอการค้าฯ เข้าใจดีว่าภาครัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง เพราะที่ผ่านมามีการใช้เงินในมาตรการต่าง ๆ ไปมากพอสมควร แต่หากมีการกระตุ้นต่อเนื่องไปอีกระยะ จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากจะช่วยให้มีเม็ดเงินเติมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ยังช่วยประคองให้ธุรกิจรายย่อยอยู่ได้ รวมถึงประคองการจ้างงาน ซึ่งต้องไม่ลืมว่าในเดือนหน้ายังมีความท้าทายอีกหลายอย่างรออยู่ โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันดีเซล ที่จะกระตุกให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักลงไปอีก

ในเดือนพฤษภาคมนี้ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาท/ลิตร จะสิ้นสุดลง หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศสูงขึ้นเป็น 35-36 บาท/ลิตร จากการวิเคราะห์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าหากดีเซลขยับราคาขึ้น 10% ธุรกิจจะยังสามารถประคองธุรกิจ ตรึงราคาต่อไปได้อีกประมาณ 3 เดือน แต่เมื่อราคาขยับเข้าใกล้ 35 บาท อาจจะเริ่มเตรียมตัวปรับขึ้นราคาสินค้า ภาครัฐจะต้องเร่งออกมาตรการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อรับมือสถานการณ์ และลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่สำคัญจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย