ความท้าทายใหม่

ความท้าทายใหม่

การเปลี่ยนแปลงในแวดวงการเมืองบ้านเรากำลังเป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนต่างก็จับตามองการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เปลี่ยนขั้วไปจากเดิมอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด คนเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจคงคาดเดาได้ยากว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นตามมาอีก

นอกเหนือจากเรื่องการเมืองแล้ว พลวัตรของโลกใบนี้ก็มีตัวแปรใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาตลอดเวลาทำให้เราปรับตัวยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือการเกิดขึ้นของโรคอุบัติใหม่อย่างโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบรุนแรงทั่วโลก

หลังจากนั้นก็ยังมีเรื่องภาวะสงครามระหว่างประเทศ ตามมาด้วยปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างขั้วอำนาจสำคัญของโลกอย่างจีนและอเมริกาจนก่อให้เกิดสงครามการค้าที่มีแนวโน้มจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ มากขึ้น ไหนจะเรื่องภาวะโลกร้อนที่เริ่มส่งผลกระทบถึงประชนชนทั่วไปมากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนปัจจุบันต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เท่าทัน

ธุรกิจที่จะอยู่รอดไปได้ถึง 10-20 ปีข้างหน้าจึงต้องเข้าใจตัวแปรเหล่านี้ และมีทิศทางการเติบโตที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้จะเคยอยู่อย่างมั่นคงมานับสิบนับร้อยปี แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อาจพลิกโฉมจนธุรกิจเหล่านั้นปิดตัวลงได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็เช่นธุรกิจสื่อ รวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มูลค่าของบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้ไม่ใช่บริษัทเก่าแก่ที่เคยทำรถยนต์มานับสิบนับร้อยปี แต่เป็นบริษัทหน้าใหม่ที่เพิ่งหันมาสร้างรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเทสล่า

นั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญให้บริษัทเก่าแก่ที่ทำอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับรถยนต์อย่างเช่นปิโตรเคมีต้องปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ รวมถึงประเทศที่พึ่งพารายได้จากน้ำมันโดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่กำลังลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆ เป็นจำนวนเงินมหาศาลเพราะรู้ว่าภูมิทัศน์ในการทำอุตสาหกรรมนี้กำลังถึงจุดพลิกผัน

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จึงมีผลเชิงลบต่อหลายอุตสาหกรรมและหลายธุรกิจก็ต้องปิดตัวลง เพราะไม่อาจฝืนกระแสที่เกิดขึ้นได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายบริษัทกลับสวนทางสร้างการเติบโตต่อไปได้ อาจเป็นเพราะมีการเตรียมพร้อมที่ดีและวางแผนล่วงหน้ามานานหลายปี

ตัวอย่างในบ้านเราก็เช่นบริษัทปตท. ที่ผันตัวจากธุรกิจนำมันสู่การค้าปลีกในนามโออาร์ จนสามารถขยายสาขาร้านกาแฟอเมซอนได้มากมาย การเริ่มธุรกิจด้านพลังงานสีเขียวหรือพลังงานสะอาด ( Green Energy) รวมถึงการมุ่งเข้าสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นแนวโน้มธุรกิจที่ชัดเจนว่าตรงกับความต้องการของลูกค้าในอนาคต เป็นต้น

ความสำเร็จในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่เราจะเห็นกรณีศึกษามากมายของหลายๆ บริษัทที่สามารถเติบโตขึ้นมาได้แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย

แล้วอะไรเป็นปัจจัยสำคัญให้เขาประสบความสำเร็จ? นอกจากเรื่องพื้นฐานทั่วไปที่เรารู้กันดีเช่นความขยันหมั่นเพียร รักเรียนรู้ ปรับตัวเก่ง ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นตัวสร้างพื้นฐานที่ดีให้มีโอกาสประสบความสำเร็จได้แต่นอน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

สำนวนจีนโบราณที่กล่าวถึงความสำเร็จจึงชี้ให้เห็นว่านอกจากปัจจัยเหล่านั้นแล้ว การอยู่ถูกที่ถูกเวลาก็อาจเป็นตัวการสำคัญให้คนบางคนมีโอกาสสำเร็จมากกว่าคนอื่น ซึ่งความผันผวนของโลกในทุกวันนี้อาจทำให้สำนวนดังกล่าวดูเป็นจริงมากยิ่งขึ้น

เพราะท่ามกลางความขัดแย้งในการเมืองระดับประเทศ หากเราจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมที่อาจเกิดภาวะสงคราม โอกาสในการเติบโตก้าวหน้าก็คงลดน้อยลงไปโดยปริยาย ตรงกันข้ามกับใครบางคนที่อาจเกิดมาในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว ก็ย่อมได้รับโอกาสที่ดีขึ้นตามไปด้วย

แต่ทั้งนี้ การอยู่ถูกที่ถูกเวลาก็ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด เพราะยังมีตัวแปรอีกมากรวมถึงสภาพแวดล้อมของแต่ละคนที่หล่อหลอมให้เติบโตมาไม่เหมือนกัน โอกาสในการประสบความสำเร็จก็ต่างกันไปด้วย

...ติดตามต่อในฉบับหน้าครับ