คนขี่เสือชื่อ 'หนู' เผชิญเกมโชว์บารมี 'อินทรี-มังกร'

“ทรัมป์” เปิดการแสดงชุดประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ “ปักกิ่ง” หนุน “มินอ่องหล่าย” โชว์ระเบิดรัง สแกมเมอร์ ริมน้ำเมย ส่งสัญญาณ “ขาใหญ่” ย่านนี้

เปิดฉากรัฐบาล “อนุทิน” โชคดีมีกระแสชาตินิยมอุ้ม หลังโดนพิษสแกมเมอร์เขมร เหมือนเจอพายุถล่ม อาจ ยุบสภาฯ ก่อนครบ 4 เดือน

มาตามนัด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ในวันอาทิตย์ 26 ต.ค.2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน

นายกฯอนุทิน และแกนนำรัฐบาลยืนยันว่า ไม่ใช่ “ดีลสันติภาพ” แต่เป็นการลงนามในเอกสารที่กำหนดแนวทางที่จะแก้ปัญหาไปสู่สันติภาพ

จะอย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระบุว่า หากไม่มีปัจจัยจากสหรัฐฯ และการริเริ่มจากประธานาธิบดีทรัมป์ ก็อาจไม่ได้เห็นข้อสรุปที่เร็วขนาดนี้ 

เนื่องจาก “กระแสชาตินิยม” ภายในไทยและกัมพูชา ยังเชี่ยวกราก ผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศ ยังไม่มีทีท่าว่า จะหยุดรบกัน แต่ทรัมป์ก็มาด้วยข้อเสนอ ซึ่งคุณปฏิเสธไม่ได้

ฉะนั้น ทั้งนายกฯอนุทิน และนายกฯ ฮุนมาเนต ต่างอยู่สถานการณ์เดียวกัน ถูกกระแสชาตินิยมตีกลับ ตกเป็นจำเลยดีลสันติภาพ

เกมมหาอำนาจโลก

นักการเมืองฝ่ายค้านอาจคิดว่า ประเด็นสแกมเมอร์ในกัมพูชา เป็นปัจจัยดึงสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทเป็นคนกลางจับไทย-กัมพูชา มาลงนามในดีลสันติภาพหนนี้ 

จริงๆแล้ว เรื่องสแกมเมอร์ หรือ อาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ สหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคลระดับสูงกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดกับ สมเด็จฮุน เซน มาหลายครั้ง 

“ทรัมป์” น่าจะมองปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์มากกว่า เนื่องจากว่า “ทุนสีเทา” ในภูมิภาคนี้ ทั้งกัมพูชา เมียนมา ลาวและไทย ล้วนเป็นทุนจีน

สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงสวมแว่นภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลก ส่องกล้องมองเกมนี้ว่า ถ้าสหรัฐฯ ไม่เข้ามามีบทบาทโดยตรงในการนี้ เราอาจจะเห็นบทบาทของจีนในแบบเดียวกัน

นักวิชาการคนนี้ จึงสรุปแบบเข้าใจง่ายๆว่า “ดูเหมือนทรัมป์เล่นบทแบบขับรถปาดและแซงหน้าในกรณีนี้”

ขณะที่ สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ผู้เชี่ยวชาญด้านอินโดจีนให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ในประเด็นจีนกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชาว่า จีนระมัดระวังตัวมาก เนื่องจากจีนสนับสนุนเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกัมพูชา และความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างพนมเปญกับปักกิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน จึงกลายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงในระดับภูมิภาค 

“จีนไม่สามารถที่จะเข้าข้างใครได้จริงๆ ในแง่หนึ่งเพราะว่าเขาก็ทิ้งกัมพูชาไม่ได้ ทำนองเดียวกัน ไทยก็เป็นตลาดใหญ่ เขาก็ทิ้งไม่ได้"

ปักกิ่งโชว์พลังริมน้ำเมย

ระหว่างที่สื่อไทยให้ความสำคัญกับดีลสันติภาพที่มาเลย์ ด้านชายแดนตะวันตกของไทย ก็มีข่าวใหญ่ทหารเมียนมา บุกรังสแกมเมอร์ชาวจีนที่เมืองใหม่เคเคปาร์ค ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยอยู่ในความดูแลของกะเหรี่ยง BGF 

หลังจากนั้น ก็มีชาวต่างชาตินับพันคน แตกหนีออกจากเคเคปาร์ค ข้ามน้ำเมยมายังฝั่งไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ของแก๊งจีนเทา

มิหนำซ้ำ ยังได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในเคเคปาร์คติดต่อกัน 4 คืน ประหนึ่งมหกรรมจุดพลุจุดดอกไม้ไฟ

สื่อหลายสำนักที่เกาะติดสถานการณ์ในเมียนมา เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการแสดงละครของ BGF และทหารเมียนมา เพื่อจะบอกแก่ชาวโลกว่า พวกเขาปราบปรามสแกมเมอร์อย่างเด็ดขาด 

ละครปราบสแกมเมอร์ฉากนี้ จะมองข้ามผู้กำกับการแสดงไปไม่ได้ นั่นคือ รัฐบาลปักกิ่ง ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลทหารของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย 

หลายคนอาจไม่ทราบว่า กองทัพเมียนมาเปิดยุทธการ “อ่องเซยะ” ทวงคืนทางหลวงเอเชีย AH1 และเข้ายึดจุดยุทธศาสตร์บ้านติงกานญีนอง หรือบ้านปางกาน ทางเข้าเมืองเมียวดี มาตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

 

กองทัพเมียนมา ได้รับการช่วยเหลือด้านการทหารจากจีน ทำให้มีอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงเช่น โดรนโจมตี เครื่องบินรบและปืนใหญ่ขนาด 120 มม. จึงเอาชนะกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA และกองกำลัง PDF

พูดจาภาษาชาวบ้าน มหกรรมพลุไฟรอบนี้ “ปักกิ่ง” ต้องการประกาศให้รู้ว่า ข้าคือผู้คุมย่านนี้ รวมถึงยังปกป้อง “จีนเทา” แบบลับๆ

คนขี่เสือชื่อนายกฯหนู

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โชคดีได้เป็น “นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล” และได้กระแสชาตินิยมโอบอุ้ม

ชั่วโมงนี้ รัฐนาวาอนุทินกลับเจอพายุโหมลมแรง เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาสแกมเมอร์ในรัฐบาล

 

เมื่อ ทอม ไรต์ อดีตผู้สื่อข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัล เปิดโปงว่า ยิม เลียก ชาวกัมพูชา ประธานธนาคาร BIC Bank และประธานกลุ่มบริษัท BIC Group ซึ่งบริษัทเกี่ยวข้องกับศูนย์หลอกลวงออนไลน์หรือการค้ามนุษย์

โดยรายงานว่า บนหน้าเว็บไซต์ BIC Group เคยปรากฏภาพของ วรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ในรัฐบาลอนุทิน มีตำแหน่งที่ปรึกษา  

ประเด็นร้อน BIC Group ทำให้ วรภัคตัดสินใจลาออกจาก รมช.การคลัง เพื่อลดแรงกดดันต่อรัฐบาลอนุทิน

จากนั้น ในโซเชียลได้มีการแฉนักการเมืองที่พัวพันกับอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้แรงกดดันตกไปที่นายกฯอนุทิน มีการเรียกร้องให้แสดงภาวะผู้นำขจัด “รัฐมนตรีสีเทา” 

ดังนั้น จึงมีข่าวว่า พรรคเพื่อไทย จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ม.151 โดยพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีบางคนที่มีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริต ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

กูรูการเมืองทุกสำนักต่างฟันธงว่า นายกฯ อนุทินคงไม่ปล่อยให้ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกแน่ จึงอาจมีการยุบสภาฯในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้