ศึก'บิ๊กทหาร' ชิง 'รมว.กลาโหม' กลเกมสกัด'พล.อ.ณัฐพล'

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สมรภูมิการเลือกตั้งนายกอบจ.ลพบุรี ฮือฮาพลันปรากฎชื่อ "บิ๊กสุนัย" พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ " อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ.และอดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(ผบ.นสศ.) ลงท้าชิง ในนามพรรคเพื่อไทย

แม้ผลเลือกตั้ง"บิ๊กสุนัย" พ่ายแพ้ "อรพิน จิระพันธุ์วาณิช" แต่ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่2  โดยมี "สุชาติ ลายน้ำเงิน" อดีตที่ปรึกษา รมว.กลาโหม อดีตสส.จ.ลพบุรี 2 สมัยพรรคเพื่อไทย เดินเคียงคู่ช่วย"บิ๊กสุนัย"หาเสียงวันแรกถึงวันสุดท้าย 

"สุชาติ ลายน้ำเงิน" เป็นหนึ่งผู้มีบทบาทประสานงานแกนนำคนเสื้อแดง ระดมมวลชน จ.ลพบุรี มาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในวิกฤติการเมืองหลายยุคสมัย เช่นเดียวกับ สมัย "นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" หลังเจอมรสุมม็อบ กปปส.และนิรโทษกรรมสุดซอยปี 2556

มารอบนี้ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ "ครม.อิ๊งค์1/2" ชื่อ "บิ๊กสุนัย" สร้างความฮือฮาอีกครั้งว่าจะมานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม แทน "ภูมิธรรม เวชยชัย" กลับไปนั่ง รมว.พาณิชย์ เบียด
"บิ๊กเล็ก" พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ที่มีชื่อติดโผก่อนหน้านี้

ย้อนกลับช่วงจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐา
ทวีสิน ชื่อ "พล.อ.ณัฐพล" มีชื่อติดโผ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และดีกรีเพื่อนร่วมรุ่นตท.20 "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ สมพงษ์ พร้อมเสียงการันตี เป็นคนดี มีฝีมือ สามารถช่วยงานรัฐบาลได้

แต่ พล.อ.ณัฐพล ฝ่าแรงเสียดทานจากคนเพื่อไทย-คนเสื้อแดง ไม่ไหว ด้วยข้อครหาใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.อภิรัชต์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สลายชุมนุมปี 2553 ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวในนาทีสุดท้าย ได้เป็น เลขานุการ รมว.กลาโหม ยุค "สุทิน คลังแสง" เป็นรมว.กลาโหม

วันเวลาผ่านไปถึงช่วงเขย่า ครม.เศรษฐา สักรอบ เพื่อปรับทิศทางการทำงานตอบโจทย์ความเดือดร้อนประชาชน ท่ามกลางกระแสข่าว "สุทิน คลังแสง" หลุดเก้าอี้ รมว.กลาโหม และขยับ "พล.อ.ณัฐพล" เป็น"รมช.กลาโหม"

คนเสื้อแดงนัดรวมพล ยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล คัดค้าน "พล.อ.ณัฐพล" นั่งเก้าอี้ รมช.กลาโหม ด้วยข้ออ้างเดิม
แต่เกิดอุบัติเหตุการเมือง "เศรษฐาทวีสิน" พ้นเก้าอี้นายกฯเสียก่อน

เข้าสู่ยุค "นายกฯอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร ฟอร์มทีม ครม.กันใหม่ รอบนี้ชื่อ "พล.อ.ณัฐพล" นั่งเป็น รมช.กลาโหม โดยมี "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ เป็น รมว.กลาโหม

"พล.อ.ณัฐพล" โชว์ฝือมือครั้งแรกแก้วิฤติน้ำท่วมแม่สายปลายปี 2567หลัง "ภูมิธรรม" มอบหมายให้ลงไปประจำกิน-นอนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย

โดย"พล.อ.ณัฐพล" ทำงานแข่งกับเวลา ด้วยการบูรณาการกำลังทหารและหน่วยงานอื่นๆ เร่งช่วยเหลือ ฟื้นฟูอำเภอแม่สาย จนกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเวลา 1 เดือน ทันเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ฤดูท่องเที่ยวภาคเหนือพอดี

การแก้วิกฤติน้ำท่วมแม่สาย เป็นผลงานติดหนึ่งในโผของพรรคเพื่อไทย สร้างความพอใจให้ประชาชน 
กลบกระแสข่าวรัฐบาลล้มเหลวการแก้ไขปัญหาและการบริการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติได้ทันท่วงที

ส่วนการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา "แพทองธาร-ภูมิธรรม"เห็นพ้องตั้ง "พล.อ.ณัฐพล"คุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.)
ตัวเชื่อมระหว่างกองทัพกับรัฐบาล

ทว่า "แพทองธาร"กลับเจอมรสุมหนัก เรื่องขาดความเชื่อมั่นจากประชาชน จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และบางพรรคอยู่ระหว่างตัดสินใจ

ส่วนคนในเพื่อไทย เล่นเกมกดดันสกัด พล.อ.ณัฐพล ไม่ให้นั่งเก้าอี้รมว.กลาโหม ด้วยการส่งชื่อ "บิ๊กสุนัย" พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก มาเสียบแทน ท่ามกลางเสียงสนับสนุนกลุ่มเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 21 ของ พล.อ.สุนัย

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า หากชื่อ พล.อ.สุนัย ไม่ผ่าน ยังมีชื่อ
"บิ๊กแก้ว" พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ (ตท.21)อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงชื่อ "บิ๊กไก่" พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม(ตท.22) อดีตเลขา สมช. มาเป็นตัวเลือก

สำหรับ  "บิ๊กแก้ว"พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด “เพื่อนรักต่างรุ่น” ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.  

เป็นทหารม้าเติบโตในสายผู้บังคับหน่วยรบ และสายอำนวยการ เคยผ่านเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ก็มีส่วนเขียนแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” ในศึกเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 มาแล้ว

แต่ พล.อ.เฉลิมพล ติดล็อกเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภา ยังเว้นวรรคการเมืองไม่ครบ 2 ปีหลังพ้นตำแหน่งเมื่อ ก.ย.2566 

ท่ามกลางปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โค้งสุดท้ายก่อนโผ "ครม.อิ๊งค์1/2" สะเด็ดน้ำ "เก้าอี้ รมว.กลาโหม"จึงฝุ่นตลบ หวังสกัด พล.อ.ณัฐพล ซึ่งถูกมองไม่ใช่พวกตัวเอง

ในขณะที่พวกของตัวเอง ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนที่อยากเห็น รมว.กลาโหม คนใหม่เป็นมืออาชีพ เข้าใจทหารและการต่างประเทศ หวังแต้มต่อสู้กับกัมพูชา

ชื่ออดีต "บิ๊กทหาร" พรั่งพรูมาให้เป็นตัวเลือก สุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ "แพทองธาร"จะใช้บริการคนเดิมที่พอรู้ฝีมือ หรือลองของใหม่ 

เพราะโฉมหน้า "รมว.กลาโหม" คนใหม่ หากเป็นที่พอใจของประชาชนก็เท่ากับกู้วิกฤติความเชื่อมั่น แพทองธาร-รัฐบาล จากคนไทยเช่นกัน