เปิดสถิติ “ที่สุด” ของ “สภาฯชุด26”

การรับรายงานตัว ของ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ชุด 26 ซึ่งผ่านการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พฤษภาคมรูดม่าน เคลียร์ห้องรับรายงานตัว แล้ว   

แม้จะเหลือเพียง ส.ส. 1 เดียว ที่ยังรอการเข้ารายงานตัว คือ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่ไม่มีกำหนดว่าจะเข้ารายงานตัว เมื่อใด

ขณะที่อีก 1 ส.ส. จาก “ก้าวไกล” ที่ถูกสอยกลางอากาศ  ก่อนการเข้ารายงานตัว คือ “ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์” ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลำดับ27  เพราะต้องคดี เมาแล้วขับ ซึ่งศาลอาญา มีนบุรี พิพากษาให้จำคุก และคดีนั้นถึงที่สุด โดยตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดไว้ในคุณสมบัติ ในมาตรา 101 (13)  ส.ส.ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้จะรอลงอาญา ถือว่า ต้องสิ้นสภาพ ส.ส.

สำหรับสถิติที่น่าสนใจของ “ส.ส.ชุดที่26” เผยแพรจาก กลุ่มงานทะเบียนประวัติและสถิติ สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  ระบุว่า 

มี “ส.ส. ชาย”  404 คน แบ่งเป็น แบบแบ่งเขต  318 คน แบบบัญชีรายชื่อ 86 คน ขณะที่ “ส.ส.หญิง” มีทั้งหมด 95 คน แบ่งเป็น แบบแบ่งเขต 82 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 13 คน เมื่อเทียบกับชุดที่ 25 พบว่า สัดส่วนของส.ส.หญิงเพิ่มมากขึ้นแม้จะไม่มาก คือชุดที่ผ่านมา มีส.ส.หญิง 82 คน ส่วน ส.ส.ชายมี 418 คน

โดยส.ส. ตามจำนวนที่รายงานตัว รวม 499 คน พบว่า เป็น "ส.ส.หน้าใหม่” ประมาณ 268 คน เรียกว่าเกินครึ่งหนึ่งของ ส.ส.ทั้งสภาฯ 

สำหรับจำนวน “ส.ส.หน้าใหม่” ของแต่ละพรรค มีตัวเลขเป็นเบื้องต้น ดังนี้ “พรรคก้าวไกล” พบว่ามี ส.ส.หน้าใหม่ประมาณ 120 คน รองลงมาคือ “พรรคเพื่อไทย" จำนวน 45 คน ต่อด้วย “พรรคภูมิใจไทย” จำนวน 27 คน, “พรรคพลังประชารัฐ” จำนวน 20 คน ซึ่งรวมถึง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรรค

“พรรครวมไทยสร้างชาติ” ประมาณ 16 คน, “พรรคประชาธิปัตย์" จำนวน 7 คน, “พรรคไทยสร้างไทย” จำนวน 5 คน,  “พรรคประชาชาติ” จำนวน 4 คน, “พรรคเพื่อไทรวมพลัง" จำนวน 2 คน

ขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคท้องที่ไทย, พรรคใหม่ , พรรคพลังสังคมใหม่ และ พรรคเป็นธรรม มี ส.ส.หน้าใหม่-สมัยแรก พรรคละ 1 คน

นอกจากนั้น ตามสถิติจาก สภาฯ ระบุว่า มี ส.ส.ที่อายุน้อยที่สุด คือ 27 ปี ได้มาจากการ ชิงชัย “จากการแบ่งเขตเลือกตั้ง” 

ฝ่ายชาย คือ “เต้” -ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์  ส.ส.เขต1 พระนครศรีอยุธยา (บางบาล-พระนครศรีอยุธยา) จากพรรคก้าวไกล 

ขณะที่ ฝ่ายหญิงคือ “กานต์ - สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ” ส.ส.อุบลราชธานี เขต7(อ.ศรีเมืองใหม่ , อ.โขงเจียม , อ.สิรินธร , อ.พิบูล เฉพาะ ต.ระเว ต.ทรายมูล) พรรคเพื่อไทย บุตรสาวคนโตของ นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย

ซึ่งทั้งคู่ ลงสนามเลือกตั้งครั้งแรก  และสามารถโค่น “เจ้าถิ่น-ตระกูลใหญ่” ในพื้นที่ได้ โดย “เต้-ทวิวงศ์” เอาชนะ “เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร” จากภูมิใจไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่างเกือบหมื่นคะแนน ขณะที่ “กานต์-สุดารัตน์” เอาชนะ ทายาทบ้านใหญ่ “เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์” จากภูมิใจไทย กว่า 4,000 คะแนน

 

อย่างไรก็ดี “ส.ส.อายุน้อยทั้งคู่” ไม่ใช่ว่า ไร้ประสบการณ์ทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำงานใกล้ชิด กับ “นักการเมือง” อย่าง “กานต์-สุดารัตน์” ที่มีแต้มต่อคือ “เห็นการทำงานจากพ่อ” และ ผลักดันให้รับตำแหน่ง เลขานุการประจำคณะ กมธ.สื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจพอเพียงและสังคม สภาผู้แทนราษฎร และเลขานุการประจำคณะ กมธ.พลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ในสมัยที่ผ่านมา

ขณะที่ส.ส.ที่อายุมากที่สุด ฝ่ายชาย  "พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์”   ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อายุ 89 ปี  ส่วนฝ่ายหญิง คือ “ขวัญเรือน เทียนทอง” ส.ส.สระแก้ว เขต1 พรรคพลังประชารัฐ อายุ 79 ปี ที่เจ้าตัวคร่ำหวอดในการเมืองระดับท้องถิ่น ถูกคนในจังหวัดเรียกว่า “นายแม่” ก่อนจะก้าวข้ามการเมืองระดับท้องถิ่น ลงเลือกตั้งสนามระดับชาติครั้งแรก และจาก บารมีบ้านใหญ่สระแก้ว รวมถึงผลงาน จึงได้รับเลือก

นอกจากนั้น ยังมีสถิติส.ส.ของสภาฯ​ชุดที่26 ที่น่าสนใจ อาทิ  ส.ส.ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด

ฝ่ายชาย คือ “ทวี สุระบาล” ส.ส.ตรัง เขต2 พรรคพลังประชารัฐ 63,185 คะแนน ที่เอาชนะ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” อดีตส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ไปได้

ขณะที่ ฝ่ายหญิง คือ “จีน-พุธิตา ชัยอนันต์”  ส.ส.เชียงใหม่ เขต4 (อ.สันทราย  อ.แม่ริมเฉพาะ ต.ดอนแก้ว ต.เหมืองแก้ว ต.แม่สา )พรรคก้าวไกล ได้รับคะแนน 62,009 คะแนน จากผู้ออกมาใช้สิทธิ 1.14  แสนคน ชนะแชมป์เก่า “วิทยา ทรงคำ” ส.ส.5สมัย จากพรรคเพื่อไทย

ประวัติของ “จีน-พุธิตา” เธอเริ่มต้นจากการเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรี และเข้าสู่วงการการเมืองในนามพรรคก้าวไกล สมัยที่ผ่านมา ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย-ผู้ชำนาญการ ประจำตัว ส.ส.ก้าวไกล 

ขณะที่ ส.ส.ที่ได้รับเลือกกตั้งมากครั้งที่สุด หนีไม่พ้น “ชวน หลีกภัย”  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  ได้รับเลือกตั้งรวมกันทั้งสิ้น 17 ครั้ง แม้ปัจจุบันในวัย 84 ย่าง 85 ปี ยังได้รับการเคารพจาก สมาชิกของรัฐสภา และนักการเมืองหลายระดับ

 

อนึ่ง การเมืองในสภาฯ ห้วงต่อจากนี้ไป ต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งการเติบโตของเทคโนโลยี และความรู้ที่หลากหลายด้าน จาก “ส.ส.หน้าเก่า” ผสม “ส.ส.คนรุ่นใหม่” ที่จะสามารถผสมผสานการทำงานเพื่อให้ “สถาบันนิติบัญญัติของไทย" ได้รับความศรัทธาและไว้วางใจจากประชาชน หรือ เป็นเพียง หุ่นเชิดการเมือง ในสมรภูมิการเมืองที่เบื้องหลัง คือ “เกมชิงอำนาจ”.