โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน อัญมณีแห่งเบอร์กันดี

โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน เป็นผู้ผลิตไวน์เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ในหมู่บ้านปอมมาร์ด แคว้นเบอร์กันดี ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกของยูเนสโก
KEY
POINTS
- โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน เป็นผู้ผลิตไวน์เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ในหมู่บ้านปอมมาร์ด แคว้นเบอร์กันดี ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกของยูเนสโก
- ปัจจุบันมีเจ้าของใหม่เป็นชาวอเมริกันตั้งแต่ปี 2017 และได้ ปอล ครุก ทายาทผู้ผลิตแชมเปญชื่อดัง มาเป็นไวน์เมกเกอร์เพื่อฟื้นฟูความรุ่งโรจน์
- ไวน์จากโดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท โคลส์ โมโนโปล
เบอร์กันดี หรือ บูร์กอญ (Burgundy / Bourgogne) เป็นเขตผลิตไวน์แดงและไวน์ขาวที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศสและของโลก
ผู้เชี่ยวชาญเคยให้คำนิยมของ ไวน์เบอร์กันดี ว่า..."แพงกว่า (Higher Price) คุณภาพดีกว่า (Higher Quality) น่าหมายปองกว่า (Higher Interest)”
ซึ่งก็ไม่เกินจริง เพราะไวน์แดงราคาแพงที่สุดของโลกอยู่ที่ เบอร์กันดี ขณะที่ไวน์ขาวดรายที่แพงระดับหัวแถวของโลกก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
ไวน์เบอร์กันดี มีผลผลิตเพียง 3% ของทั้งประเทศฝรั่งเศส แต่คิดเป็นราคาขาย 41% แซงบอร์กโดซ์ ซึ่งทำได้แค่ 32% (ข้อมูลปี 2014) โดยไวน์แพงที่สุดในโลก 50 ตัวจะมีไวน์เบอร์กันดีติดอันดับ 5 ตัว ส่วนไวน์ระดับ กรอง ครู ที่ราคาแสนแพง มีอยู่ แค่ 2% ของผลผลิตทั้งหมด
เบอร์กันดี อยู่ทางตะวันออกของประเทศ ผลิตไวน์จากองุ่นพันธุ์เดียว ไม่นิยมผสมจากองุ่นมากกว่า 2 พันธุ์ขึ้นไปเหมือนบอร์กโดซ์ ส่วนใหญ่ไวน์แดงทำจากองุ่นกาเมย์ (Gamay) ที่ปลูกมากถึง 60%
แต่คุณภาพสูงสุดอยู่ที่ ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ที่ปลูกประมาณ 21% ส่วนไวน์ขาวทำจากชาร์โดเนย์ (Chardonnay)
เกรดไวน์เบอร์กันดีทุกชั้นล้วนเป็นระดับ AOC (Appellation d’Origine Contrôlée) มีทั้งสิ้น 113 เขต โดยเรียงจากสูงสุดไปต่ำสุด ดังนี้
- ชั้นที่ 1 เรียกว่ากรองด์ ครู (Grand Crus) เป็นไวน์ระดับสุดยอด
- ชั้นที่ 2 เรียกว่าเปรอะมิเยร์ ครู (Premiér Crus) เป็นไวน์ระดับ 4 ดาว
- ชั้นที่ 3 เรียกว่าวิลลาจ คอมมูน (Village Commune Wines)
- ชั้นที่ 4 เรียกว่า Specific Regional Appellations เป็นเกรด AOC ที่ระบุพื้นที่การปลูกองุ่น
- ชั้นที่ 5 เรียกว่า Non-Specific Regional Appellations หรือชั้น Bourgogne AOC เป็นระดับต่ำสุด
การจะจดจำเกรดของไวน์เบอร์กันเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก แต่มีวิธีง่าย ๆ ในเบื้องต้น คือให้ดูที่ AOC ที่ระบุเขตปลูกองุ่น ยิ่งแคบยิ่งดี
เช่น AOC ของจังหวัดย่อมดีกว่าแคว้น ของอำเภอย่อมดีกว่าจังหวัด ของตำบลย่อมดีกว่าอำเภอ หมู่บ้านย่อมดีกว่าตำบล และถ้าระบุชื่อไร่พร้อมกับมี ครู (Cru) ด้วย ยิ่งจะเยี่ยมยอด
ล่าสุดผมได้ชิมไวน์เบอร์กันดีของหนึ่งในผู้ผลิตที่เก่าแก่และมีอะไรต่อมิอะไรที่น่าสนใจมากมาย นั่นคือ โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน (Domaine de la Commaraine) โดยมี ปอล ครุก (Paul Krug) ไวน์เมกเกอร์ เดินทางมาแนะนำด้วยตนเอง และเมืองไทยนำเข้าโดยบริษัท โคลส์ โมโนโปล (Clos Monopole)
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 มีที่ทำการอยู่ในปอมมาร์ด (Pommard) หมู่บ้านในเขตย่อยโก๊ต ดอร์ (Cote d'Or) แคว้นเบอร์กันดี ซึ่งมีประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ย้อนกลับไปถึงสมัยโรมัน
สภาพภูมิอากาศของ Pommard (รวมถึง Le Clos de la Commaraine) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2015
สำหรับ “ปอมมาร์ด” เป็นหนึ่งในพื้นที่ระดับหัวกะทิในเบอร์กันดี ไร่องุ่นหลายแห่งของที่นี่จัดอยู่ในระดับเปรอะมิเยร์ ครู และไวน์เป็นที่ต้องการของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบไวน์ทั่วโลก อาทิ โธมัส เจฟเฟอร์สัน, พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และ วิกเตอร์ อูโก ฯลฯ
โดยเฉพาะโธมัส เจฟเฟอร์สัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยเยือนปอมมาร์ดและโดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน เมื่อปี 1787
ปลายปี 2017 โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน อยู่ห่างจากเมืองโบน (Beaune) 2.5 ไมล์ ถูกซื้อโดยนักลงทุนจากสหรัฐ เดนีส์ ดูเปร (Denise Dupré) อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด (Harvard) และ มาร์ค นูเนลลีย์ (Mark Nunelly) และกำลังอยู่ในช่วงการฟื้นฟูเพื่อคืนสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต
มีการปรับปรุงปราสาทให้เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ท่ามกลางไร่องุ่นบนที่ดินอันน่าประทับใจขนาด 7.41 เอเคอร์ มีห้องพัก 37 ห้อง พร้อมด้วยสปา สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร
ปอล ครุก
สำหรับ ปอล ครุก (Paul Krug) เป็นทายาทของเจ้าของ "แชมเปญ ครุก" ที่โด่งดังนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอาณาจักรของยักษ์ใหญ่สินค้าลักเชอะรีคือ Moët Hennessy – Louis Vuitton (LVMH) และพ่อของเขาก็ยังทำงานอยู่ที่ครุก
ขณะที่ตัวเขาออกมาแสวงหาความท้าทาย และเข้าร่วมงานในฐานะไวน์เมกเกอร์ของโดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นวินเทจแรกภายใต้การบริหารของเจ้าของใหม่
ปัจจุบัน โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน นอกจากจะผลิตไวน์ภายใต้ออร์แกนิก (Organic) แล้ว ยังมีการขยับขยายไปทำไวน์ในพื้นที่ต่าง ๆ ของเบอร์กันดีอีกหลายแห่ง โดยไวน์ที่ได้ชิมมีดังนี้ :
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน แซงต์ โอแบง เปรอะมิเยร์ ครู “มิวเฌร์ ดองต์ เดอ เชียง” 2023 (Domaine de la Commaraine Saint - Aubin 1er Cru “Murger Dents de Chien” 2023) : ไวน์ขาวตัวแรกและตัวเดียวในงาน แม้จะยังไม่พีคเต็มที่นัก แต่ก็ฉายแววของชาร์โดเนย์ที่สุดคลาสสิก
- สีเหลืองอ่อน ๆ สดใส
- หอมกลิ่นผลไม้ แอปเปิ้ล สับปะรด มะละกอ เมลอน ซีทรัส เลมอน ดอกไม้ขาว ไอโอดีน เอิร์ธตี้ นัตตี้ ครีมมี เฮิร์บสด โอ๊คหอมกรุ่น
- แอสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล
- อีก 4-5 ปีจะสุกอร่อยกว่านี้
- 19/20 คะแนน
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน โฟลเนย์ เปรอะมิเยร์ ครู “ออง ชอมปองส์” 2023 (Domaine de la Commaraine Volnay 1er Cru “En Champans” 2023) : ปิโนต์ นัวร์จากไร่ En Champans ซึ่งเป็นไร่เปรอะมิเยร์ ครู ที่มีชื่อเสียง โดยมีลักษณะเด่นคือมีความสง่างามตามแบบฉบับของโฟลเนย์ และโครงสร้างที่ทรงพลัง
สีแดงทับทิมเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้เปลือกแดง เชอร์รี ราสพ์เบอร์รี แครนเบอร์รี เรดเคอร์แรนท์ กลีบกุหลาบ เอิร์ธตี้ เห็ด สไปซีเฮิร์บกรุ่น ๆ ใบไม้แห้งเปียกน้ำ แป้งเด็ก แอซสิดสดชื่น แทนนินค่อนข้างนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ ดอกไม้ มิเนอรัล สไปซี วินเทจยังใหม่เอี่ยม จะให้สุกพอดื่มได้ก็น่าจะอีกประมาณ 5-6 ปีเป็นอย่างน้อย.....19/20 คะแนน
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน ปอมมาร์ด เปรอะมิเยร์ ครู โคลส์ เดอ ลา กอมมาเฮรน โมโนโปล 2022 (Domaine de la Commaraine Pommard 1er Cru Clos de la Commaraine Monopole 2022) : ไวน์แดงตัวที่สองและเป็นตัวแรกของเขตปอมมาร์ดซึ่งได้ชื่อว่าทำไวน์ได้หนักแน่นกว่าทุกเขตของเบอร์กันดี ปีโนต์ นัวร์ จากไร่ Clos de la Commaraine ซึ่งเป็นไร่แบบ "Monopole" คืออยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของคนเดียวเท่านั้น
- สีแดงทับทิมเข้มสดใส
- หอมกลิ่นผลไม้เปลือกแดงและดำ แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เชอร์รี ทับทิม ดอกไวโอเลต มิเนอรัล ทรัฟเฟิล เปลือกหอยที่ทับถมกันมานานๆ สไปซีเฮิร์บกรุ่น ๆ ใบไม้ที่แช่น้ำนาน ๆ แป้งเด็ก
- แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นแต่นุ่มนวลเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี โอคกรุ่น ๆ
- ตัวนี้มีวินเทจ 2023 ให้ชิมเปรียบเทียบ โดย 2023 ดื่มง่ายและดื่มได้เร็วกว่า 2022 ที่เนื้อละเอียดกว่าและอาจจะต้องรอให้สุกก็อย่างน้อยอีกประมาณ 7-8 ปี
- 19.5/20 คะแนน
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน ปอมมาร์ด เปรอะมิเยร์ ครู โคลส์ เดอ ลา กอมมาเฮรน โมโนโปล 2021 (Domaine de la Commaraine Pommard 1er Cru Clos de la Commaraine Monopole 2021) : ไวน์แดงตัวเดียวกับตัวก่อนหน้านี้ แต่เป็นคนละวินเทจ และวินเทจ 2021 นี้ชิมแล้วต้องร้องว้าว !
- สีแดงทับทิมเข้มสดใส
- หอมกลิ่นผลไม้เปลือกแดงและดำ เรดเบอร์รี เรดเคอร์แรนท์ เชอร์รี ราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต เปลือกส้มกรุ่น ๆ เอิร์ธตี้ ทรัฟเฟิล เปลือกหอย สไปซีเฮิร์บกรุ่น ๆ ใบยาสูบ แป้งเด็ก สโมคกี้โอ๊ค
- แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มนวลเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี
- สามารถดื่มได้บ้างในเวลานี้ แต่ถ้าจะให้อร่อยเริ่มอีกประมาณ 6-7 ปี
- 19.5/20 คะแนน
โดเมน เดอ ลา กอมมาเฮรน ปอมมาร์ด เปรอะมิเยร์ ครู โคลส์ เดอ ลา กอมมาเฮรน โมโนโปล 2019 (Domaine de la Commaraine Pommard 1er Cru Clos de la Commaraine Monopole 2019) : ตัวเดียวกับ 2 ตัวที่ผ่านมา แต่เป็นวินเทจ 2019 ซึ่งเป็นวินเทจยอดเยี่ยม และเป็นขวดแม็กนั่ม (1.5 ลิตร) ทำเพียง 20 ถังเท่านั้น ชิมแล้วต้องร้องว้าว ว้าว ว้าว !
- สีแดงทับทิมเข้มสดใส
- หอมกลิ่นผลไม้เปลือกแดงและดำสุกคล้าย ๆ แยมผลไม้ ราสพ์เบอร์รี เบอร์รี เชอร์รี เรดพลัม สตรอว์เบอร์รี ดอกโบตั๋น ทรัฟเฟิล เอิร์ธตี้ เปลือกส้ม ไม้ซีดาร์ สไปซีเฮิร์บ แป้งเด็ก สโมคกี้โอ๊ค
- แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี เป็นวินเทจที่ทรงพลัง และแสดงเนื้อแท้ของปอมมาร์ดได้ดีมาก
- ดื่มตอนนี้ว่าอร่อยแล้ว แต่อีกสัก 7-8 ปีจะอร่อยกว่านี้
- 19.75/20 คะแนน
*** ข้อมูลต่าง ๆ สอบถามที่บริษัท โคลส์ โมโนโปล (Clos Monopole) โทร.0 2061 3600







